มูลนิธิโรคไตฯ เผยผลสำเร็จ ปลูกถ่ายไตให้แก่ผู้ป่วยจำนวน 618 ราย ภายใน 1 ปี

มูลนิธิโรคไตฯ เผยผลสำเร็จ ปลูกถ่ายไตให้แก่ผู้ป่วยจำนวน 618 ราย ภายใน 1 ปี

มูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย เผยผลสำเร็จ โครงการปลูกถ่ายไตถวายเป็นพระราชกุศล 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สามารถผ่าตัดปลูกถ่ายไตให้แก่ผู้ป่วยถึง 618 ราย ภายใน 1 ปี เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ พร้อมเดินหน้าต่อยอดโครงการจัดหาผู้บริจาคไตเพิ่ม เพื่อเพิ่มโอกาสให้แก่ผู้ป่วยที่รอเปลี่ยนไตจำนวนมาก

.กิตติคุณ นพ.วิศิษฏ์ สิตปรีชา รองประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกับหน่วยงานผู้สนับสนุนโครงการจำนวน 12 แห่ง และโรงพยาบาลทั่วประเทศ จำนวน 58 แห่ง จัดทำ “โครงการปลูกถ่ายไตถวายเป็นพระราชกุศล 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา เมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2558 ที่ผ่านมา โครงการได้ครบกำหนดระยะเวลา 1 ปีในปีนี้ โดยมีผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายไตแล้วทั้งสิ้น จำนวน 618 ราย เป็นไตจากญาติจำนวน 226 ราย เป็นไตจากการบริจาค 392 ราย จากที่มูลนิธิฯ ได้ตั้งเป้าถวายเป็นพระราชกุศลไว้จำนวน 600 ราย ถือว่าโครงการประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของหลายฝ่าย ได้แก่ 1. กระทรวงสาธารณสุข 2. สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล 3. มูลนิธิท่านท้าวมหาพรหมโรงแรมเอราวัณ 4. ศิริราชมูลนิธิ 5. มูลนิธิศิริวัฒนภักดี 6. สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 7. สำนักงานประกันสังคม 8. กรมบัญชีกลาง 9. ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย 10. โรงพยาบาลที่ทำการผ่าตัดปลูกถ่ายไตและสนับสนุนอวัยวะ 11. สมาคมปลูกถ่ายอวัยวะแห่งประเทศไทย 12. สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย 13. สถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ และ 14. ผู้มีจิตศรัทธาทั่วไป ทำให้ยอดผ่าตัดปลูกถ่ายไตเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่วางไว้ สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยให้ได้รับการปลูกถ่ายไตมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมให้มีการบริจาคไต ตลอดจนอวัยวะอื่น ๆ เพิ่มมากขึ้น และยังสนับสนุนให้หน่วยงานและสถาบันการแพทย์จัดตั้งโครงการปลูกถ่ายไตเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

            อย่างไรก็ดี ภายในปี พ.ศ. 2559 ทางมูลนิธิฯ มีแผนงานที่จะดำเนินโครงการต่อไปเพื่อผู้ป่วยโรคไตจำนวนมากที่ยังรอการปลูกถ่ายไตอยู่จำนวนมาก แม้ว่าการผ่าตัดปลูกถ่ายไตในประเทศไทยเริ่มทำการปลูกถ่ายไตตั้งแต่ปี พ.ศ. 2514 นับถึงปัจจุบันการปลูกถ่ายไตในประเทศไทยยังไม่ตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยได้เพียงพอ ด้วยจำนวนผู้ป่วยโรคไตที่รอการผ่าตัดปลูกถ่ายไตเพิ่มมากขึ้นทุกปี ปัญหาใหญ่คือ การบริจาคไต โดยในปี พ.ศ. 2556 ผู้ป่วยรอรับการปลูกถ่ายไตจากภาวะสมองตายอยู่ถึง 3,900 ราย แต่มีผู้สมองตายบริจาคไตเพียง 158 ราย และปลูกถ่ายไตได้เพียง 287 ราย คิดเป็นเพียงร้อยละ 7.3 เท่านั้น ซึ่งมูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทยจะเดินหน้าสนับสนุนจัดทำโครงการปลูกถ่ายไตให้แก่ผู้ป่วยที่ยากไร้ต่อไป เนื่องจากการปลูกถ่ายไต (Kidney Transplantation) เป็นการบำบัดทดแทนไตที่ดีที่สุด โดยนำไตที่ยังทำงานได้ดีของผู้อื่น มาปลูกถ่ายใส่ร่างกายของผู้ป่วย เพื่อให้ไตใหม่ที่ทำงานได้ดีจะทำให้ผู้ป่วยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว สามารถประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ได้เหมือนคนปกติ แต่ปัญหาที่พบคือ ระยะเวลาการรอรับอวัยวะยาวนานเนื่องจากจำนวนผู้บริจาคอวัยวะมีจำนวนน้อย

ด้าน พญ.ประนอม คำเที่ยง รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อว่า ปัจจุบันตัวเลขผู้ป่วยโรคไตคาดว่าทั่วประเทศมีผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังประมาณ 8 ล้านคน โดย 1 ใน 3 มีอายุน้อยกว่า 60 ปี ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยไตวายระยะสุดท้าย 200,000 คน มีผู้เสียชีวิตจากไตวายปีละ 13,000 คน และมีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นปีละประมาณ 10,000 คน โดยผู้ป่วยไตวาย 1 คน มีค่าใช้จ่ายในการล้างไตด้วยวิธีฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม หรือล้างไตผ่านทางหน้าท้องต่อคนเฉลี่ยเดือนละ 30,000 บาท ซึ่งแต่ละปีใช้งบประมาณสูงถึง 3,000 ล้านบาท คาดว่าในปี พ.ศ. 2560 อาจต้องใช้งบประมาณถึงกว่า 17,000 ล้านบาท ต้นเหตุส่วนใหญ่ร้อยละ 70 เกิดจากป่วยเป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และการรับประทานเค็มซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดโรคไตมากขึ้น

ปัจจุบันสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้ให้สิทธิประโยชน์การปลูกถ่ายไตในระบบบัตรทอง ทำให้ผู้ป่วยคนไทยทุกรายมีสิทธิประโยชน์ในการปลูกถ่ายไต ทำให้ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายได้รับการปลูกถ่ายไตเพิ่มขึ้น