ผู้นำด้านธุรกิจวัคซีนและชีวเวชภัณฑ์ ด้วยวิสัยทัศน์จรรยาบรรณทางธุรกิจ ภายใต้หลักเกณฑ์ธรรมาภิบาล พร้อมบทพิสูจน์แห่งความสำเร็จด้วย 3 รางวัลคุณภาพ ประจำปี 2566

              ภก.วีระชัย ธารมณีวงศ์ หัวเรือใหญ่แห่ง “ไบโอวาลิส”

ผู้นำด้านธุรกิจวัคซีนและชีวเวชภัณฑ์ ด้วยวิสัยทัศน์จรรยาบรรณทางธุรกิจ ภายใต้หลักเกณฑ์ธรรมาภิบาล พร้อมบทพิสูจน์แห่งความสำเร็จด้วย 3 รางวัลคุณภาพ ประจำปี 2566

          นิยามความสำเร็จของคุณคืออะไร  บางคนอาจหมายถึงผลตอบแทนในรูปแบบรายได้ กำไร หรือขาดทุน ขณะที่บางคนจะนึกถึงความมั่นคง ความก้าวหน้าในอาชีพการงาน แต่สำหรับ ภก.วีระชัย ธารมณีวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไบโอวาลิส จำกัด (Biovalys Company Limited) นิยามของความสำเร็จนั้น นอกจากการนำพา “ไบโอวาลิส” ก้าวสู่ความเป็นผู้นำด้านธุรกิจวัคซีนและชีวเวชภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในมาตรฐานสากลแล้ว สิ่งสำคัญที่เป็นความตั้งใจแต่แรกของการก่อตั้งบริษัท คือ การสร้างคุณธรรม จรรยาบรรณในการทำธุรกิจที่ดี ภายใต้หลักเกณฑ์ธรรมาภิบาล (good governance) ด้วยการกำหนดเป็นวิสัยทัศน์และพันธกิจโดยประกาศเป็นนโยบายสำคัญของบริษัทฯ  ที่ไม่ใช่เพียงแค่ลายลักษณ์อักษรที่เขียนขึ้นมาเท่านั้น แต่ยังนำมาสู่การวางแนวทางในการปฎิบัติจริงเพื่อให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม จนประสบความสำเร็จ และเป็นที่ยอมรับ สร้างความภาคภูมิใจให้กับพนักงานทุกคนในบริษัทฯ จากรางวัลที่ได้รับถึง  3 รางวัล ด้วยกัน ในปี พ.ศ.2566   ได้แก่

  1. รางวัลประกาศเกียรติคุณจรรยาบรรณดีเด่น หอการค้าไทย ประจำปี 2566 ครั้งที่ 21 (TCC BEST AWARDS 21st) เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา ณ ห้อง UTCC EVENTS LAB อาคาร 23 ชั้น 7 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งได้รับเกียรติจาก ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการ มูลนิธิชัยพัฒนา เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลฯ โดยรางวัลนี้เป็นรางวัลที่มอบให้เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการนำหลักบรรษัทภิบาล หรือ Good Corporate Governance มาใช้ในการบริหารจัดการองค์กรให้เจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน
  2. รางวัลรับรองการเป็นสมาชิกของแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (Thai Private Sector Collective Action Against Corruption: CAC) เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพ (Siam Kempinski Hotel Bangkok)
  3. รางวัล "บริษัทคุณภาพแห่งปี ประจำปี พ.ศ. 2566 ด้านชีวเภสัชภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ชีวภาพ" ในโครงการหนึ่งล้านกล้าความดีตอบแทนคุณแผ่นดิน มูลนิธิเพื่อสังคมไทย เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2566 ณ ห้องชัยพฤกษ์ 2 หอประชุมกองทัพอากาศ ซึ่งได้รับเกียรติจากพลอากาศเอกชลิต พุกผาสุก องคมนตรีเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลฯ

ภก.วีระชัย กล่าวถึง ความรู้สึกที่ได้รับรางวัลว่า เป็นสิ่งที่เรามีความภาคภูมิใจมาก นับเป็นความภาคภูมิใจของพนักงานทุกคน เพราะการที่เราจะได้รับรางวัลนี้มานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องเกิดจากการลงมือปฏิบัติจริงโดยอาศัยความร่วมมือร่วมใจของพนักงานทุกท่านที่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ และพยายามผลักดันให้บริษัท ฯ  ก้าวไปสู่ทิศทางตรงนี้ที่วางไว้   จนผ่านการประเมินและได้รับรางวัลถึง 3 รางวัล  ตามวิสัยทัศน์และพันธกิจของบริษัทที่มุ่งเน้นในเรื่องของจรรยาบรรณทางธุรกิจมีการบริหารจัดการแบบที่เป็นธรรมาภิบาล (good governance)  เพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าการดำเนินธุรกิจของเราต้องมีคุณธรรมและจริยธรรม ตลอดจนเป็นไปตามจรรยาบรรณทางธุรกิจซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นพื้นฐานที่จะผลักดันให้องค์กรของเราเติบโตไปได้อย่างยั่งยืน โดยทั้งสามรางวัลนี้มีความเกี่ยวเนื่องกัน  และต่างเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ช่วยส่งเสริมสนับสนุนซึ่งกันและกัน การปฏิบัติตามข้อกำหนดของ 2 รางวัลแรกนำมาสู่การได้รับรางวัลที่ 3 นอกจากนี้การที่องค์กรจะดำเนินไปได้ก็ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจของพนักงาน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานขาย หรือพนักงานประจำสำนักงาน พนักงานทุกคนจะต้องผ่านการอบรมเรื่องของเกณฑ์จริยธรรม ปฏิบัติตามนโยบายและจรรยาบรรณ (Code of Conduct) ของ บริษัทฯ อย่างเคร่งครัด โดยเรามุ่งเน้นถึงจริยธรรมที่ดี อ้างอิงตามมาตรฐานสมาคมไทยอุตสาหกรรมผลิตยาแผนปัจจุบัน (Thai Pharmaceutical Manufacturers Association) หรือ TPMA  ซึ่งพนักงานขายของไบโอวาลิสทุกคนจะต้องผ่านการสอบเรื่องเกณฑ์จริยธรรมก่อนที่จะออกไปปฏิบัติงาน ในขณะที่พนักงานที่อยู่ประจำสำนักงานทุกท่านจะต้องผ่านการอบรม มีการทบทวนความรู้ในด้านจรรยาบรรณ จริยธรรมทุก 3 เดือน

จากที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่าไบโอวาลิสให้ความสำคัญกับการทำงานภายใต้กฎเกณฑ์จรรยาบรรณทางธุรกิจ ทั้งในเรื่องของคุณภาพสินค้า  การจัดอบรมพนักงานให้มีคุณภาพ ควบคู่กับการมีจรรยาบรรณ และจริยธรรม นอกจากนี้ผมคิดว่า เรื่องที่สำคัญที่จำเป็นที่ต้องสร้างภายในองค์กร และนำมาสู่รางวัลที่สอง นั่นก็คือ “การต่อต้านคอร์รัปชัน” เนื่องจากบริษัท มีความตั้งใจที่จะดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนโดยการกำกับดูแลภายใต้แนวทางที่เป็นธรรมและโปร่งใส โดยบริษัทฯ มุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องที่จะมีส่วนร่วมในการต่อสู้กับการทุจริตคอร์รัปชัน และตลอดเวลาที่ผ่านมา ไบโอวาลิสมีนโยบายในการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส ปฏิบัติตามกฎระเบียบ พร้อมทั้งส่งเสริมจริยธรรมทางธุรกิจ และให้ร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนในการต่อต้านคอร์รัปชัน สำหรับภาครัฐ ทางไบโอวาลิส ยึดถือในแนวปฏิบัติของศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านคอร์รัปชัน กระทรวงสาธารณสุข และ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ  หรือ ป.ป.ช.  อย่างเคร่งครัด  ตั้งแต่ยุคแรก ๆ เมื่อประมาณปี พ.ศ.2558 จนกระทรวงสาธารณสุขได้ยกให้บริษัทไบโอวาลิสเป็นแบบอย่าง (Role model) ในการแนะนำกับที่อื่นๆ  กระทั่งต่อมาเมื่อภาคเอกชนมีการดำเนินงานเกี่ยวกับการต่อต้านทุจริต ทางเราจึงได้ตัดสินใจเข้าร่วมแสดงเจตนารมณ์เป็นแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต และยินดีเข้าร่วมเป็นสมาชิกของ Thai Collective Action Against Corruption (CAC) ของภาคเอกชนไทย ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของบริษัทฯ ที่ได้รับการรับรองการเป็นสมาชิกของแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทยในปี 2566

 ภก.วีระชัย เน้นย้ำถึงความสำคัญของการดำเนินธุรกิจภายใต้เกณฑ์จริยธรรม ตามหลักธรรมาภิบาลให้ฟังว่า ในฐานะที่ผมเป็นเภสัชกร ด้วยจรรยาบรรณวิชาชีพที่ติดตัวมาตลอดเนื่องจากธุรกิจของเราเป็นธุรกิจเกี่ยวกับวัคซีน และสำหรับวัคซีนในทางการแพทย์ถือเป็นหนึ่งในการสร้างเสริมสุขภาพ (Health Promotion) ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยวัคซีนที่ดีจะต้องเป็นวัคซีนที่มีคุณภาพ มีประสิทธิภาพที่ดีในการป้องกันโรค ในขณะเดียวกันก็ต้องมีผลข้างเคียงที่น้อยมาก มีความปลอดภัยสูง การที่ไบโอวาลิสจำหน่ายสินค้าที่ดีมีคุณภาพจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชากรในประเทศไทยและที่อื่น ๆ ที่จัดจำหน่ายให้ดีขึ้น ด้วยเหตุนี้จริยธรรมในการคัดเลือกสินค้าจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เราให้ความสำคัญและผูกมัดกับองค์กรมาโดยตลอด ดังนั้น เมื่อก่อตั้งบริษัทผมจึงได้กำหนดเรื่องนี้ไว้เป็นวิสัยทัศน์และพันธกิจ ที่สำคัญผมมีแนวคิดว่าการดำเนินธุรกิจภายใต้เกณฑ์จริยธรรมที่ดีจะเป็นพื้นฐานผลักดันให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน ถึงแม้ว่าไบโอวาลิสจะไม่ใช่บริษัทใหญ่ แต่ก็เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจอยู่ในสังคม เพราะฉะนั้นถ้าบริษัทสามารถทำอะไรที่เป็นสิ่งที่ดี และแน่นอนว่าเกณฑ์จริยธรรมนั้นถือเป็นสิ่งที่ดีที่มีไบโอวาลิสเป็นส่วนหนึ่งซี่งเป็นส่วนย่อยในสังคมก็จะช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้สังคมอยู่กันอย่างมีสันติสุข หรือสงบสุข สมดังเจตนารมณ์ของบริษัท ฯ ที่ต้องการทำให้ประชากรไทยมีสุขภาพที่ดี  และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ที่ทำมาโดยตลอดตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัทจนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี

จากปณิธานเริ่มต้นที่เป็นนามธรรมบันทึกไว้ผ่านลายลักษณ์อักษร สู่แนวทางที่สามารถทำได้ จนกลายเป็นการปฏิบัติจริง และส่งผลสู่ความสำเร็จ  กว่าจะผ่านแต่ละขั้นตอนจนเป็นรูปธรรมมาถึงปัจจุบันนี้นั้น  ภก.วีระชัย ได้ถ่ายทอดบอกเล่าประสบการณ์ให้ฟังว่า การกำหนดเป็นวิสัยทัศน์ หรือพันธกิจอาจจะดูเหมือนเป็นคำพูด หรือตัวอักษรที่เราเขียนขึ้นมาเป็นนามธรรม แต่การที่จะทำให้ทุกคนเชื่อและนำไปปฏิบัติตามได้นั้น ถือเป็นประเด็นที่สำคัญที่เราจะต้องทำให้ไปถึงจุดนั้นให้ได้  

การที่เรากำหนดเรื่องนี้เป็นวิสัยทัศน์และพันธกิจเพื่อต้องการให้ทุกคนเห็นภาพทิศทางสู่จุดมุ่งหมายเดียวกันของบริษัท ฯเพื่อที่เราทุกคนจะได้ทราบว่าทางที่เราเดินไปข้างหน้าร่วมกันนั้นจะเป็นอย่างไร เมื่อเห็นภาพแล้วสิ่งที่ต้องทำต่อมาคือการสื่อสารให้ความรู้ ความเข้าใจว่าการดำเนินธุรกิจภายใต้หลักธรรมาภิบาล หรือการทำธุรกิจอย่างมีจริยธรรมนั้นมีข้อดีข้อเสียอย่างไร ซึ่งข้อดีจะต้องมีมากกว่าข้อเสียแน่นอน และข้อดีข้อเสียต่าง ๆ ตรงนี้จะส่งผลอย่างไรต่อลูกค้า ต่อบริษัท ฯ และต่อสังคม สิ่งนี้ถือเป็นปัจจัยพื้นฐานทำให้พนักงานตระหนักว่าสินค้าที่นำมาจำหน่ายจะต้องเป็นสินค้าที่ดีมีคุณภาพ และส่งผลถึงประชากรโดยทั่วไป เพราะฉะนั้นตรงนี้จึงเป็นความรับชอบผิดชอบต่อสังคมของพวกเราพนักงานไบโอวาลิสทุกคนที่ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ทั้งนี้ การได้พูดคุยสื่อสารจะช่วยทำให้เราทราบถึงแนวคิดของพนักงานว่ามีแนวคิดอย่างไร และเข้าใจในสิ่งที่ต้องการสื่อสารหรือไม่ ด้วยแบบทดสอบเพื่อประเมินผลซึ่งจะทำให้เราประมาณการได้คร่าวๆ  จากนั้นสิ่งที่ต้องปฏิบัติต่อไปคือการสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงานให้ตระหนักและเล็งเห็นความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเรามีการดำเนินกลยุทธ์หลาย ๆ รูปแบบ ที่สำคัญเรามีกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือสังคม มีกิจกรรมร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข  มีการบริจาควัคซีนเป็นประจำทุกปี ตลอดจนกิจกรรมอื่น ๆ อีกหลายด้าน ตรงนี้ทำให้พนักงานเห็นว่าบริษัทฯ ไม่ได้คิดทำแค่ธุรกิจแต่เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีการให้คืนกลับไปสู่สังคม ซึ่งเป็นข้อหนึ่งในเรื่องคุณธรรมที่พนักงานส่วนใหญ่ก็เห็นความสำคัญกับเรื่องนี้  บริษัท ฯ  จึงดำเนินการตามแนวนั้นมาเรื่อย ๆ รวมถึงเชิญองค์กรที่มีคุณภาพเข้ามาตรวจประเมินเพื่อยืนยันให้มั่นใจว่าสิ่งที่เราทำนั้นคือสิ่งที่ดี และประสบความสำเร็จนำพาความภาคภูมิใจมาสู่พวกเราพนักงานทุกคนในบริษัท

ภก.วีระชัย ได้ให้มุมมองเกี่ยวกับนิยามความสำเร็จในการประกอบธุรกิจภายใต้เกณฑ์จริยธรรมของ”ไบโอวาลิส” ว่า โดยทั่วไปทุกคนจะมองว่าความสำเร็จวัดกันตรงที่ผลตอบแทนกำไร หรือขาดทุน แต่สำหรับผม ”ความสำเร็จ” ผมไม่ได้มองผลตอบแทนที่เป็นมูลค่าของเงินตราเป็นหลัก แต่ผมมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับบุคลากร โดยการสร้างคุณค่าให้กับพนักงานของไบโอวาลิสให้เป็นบุคคลกรที่ดีมีคุณภาพ พร้อมด้วยจริยธรรม และคุณธรรม ด้วยเหตุนี้ นิยามความสำเร็จสำหรับผม คือ การที่พนักงานทุกคนเข้าใจ เชื่อมั่น  มีความภักดีต่อองค์กรพร้อมที่จะปฏิบัติตามแนวทางขององค์กรในการดำเนินธุรกิจ ภายใต้หลักเกณฑ์ของเกณฑ์คุณธรรม จริยธรรมที่ดีเพื่อที่ทุกคนจะได้ทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข สร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงาน ภายใต้ความกดดันที่น้อยที่สุด และทำงานอยู่กับองค์กรให้นานที่สุด สิ่งนี้ผมถือว่าเป็นนิยามของความสำเร็จมากกว่าที่บริษัทจะกำไรหรือขาดทุน

ภก.วีระชัย กล่าวเพิ่มเติมถึงการสร้างความสุขในการทำงานให้ฟังด้วยว่า การสร้างความสุขในการทำงานถือเป็นปัจจัยพื้นฐานที่เราคิด เพราะถ้ามีความสุขแล้ว เราก็จะทำอะไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล มากกว่าการทำงานแบบมีความเครียด หรือความทุกข์  ด้วยเหตุนี้เราจึงพยายามสร้างบรรยากาศการทำงานให้พนักงานมีความสุข แต่ทว่าความสุขเพียงอย่างเดียวคงไม่สามารถผลักดันให้องค์กรก้าวไปข้างหน้าได้ เนื่องจากพนักงานต้องมีคุณภาพด้วย  ดังนั้น จึงต้องมีการส่งเสริมพัฒนาทักษะต่าง ๆให้กับพวกเขา โดยเรามีการจัดทำแผนพัฒนาบุคลากรรายบุคคล (Individual Development Plan : IPD)  ที่เหมาะสมให้กับพนักงานตามลักษณะ และตำแหน่งงาน เพื่อพัฒนาให้พวกเขาเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ รวมถึงส่งเสริมทางด้านคุณธรรม และจริยธรรม พร้อมทั้งมีความซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา มีความจริงใจซึ่งกันและกันระหว่างหัวหน้างานเพื่อนร่วมงาน ผู้ใต้บังคับบัญชา  ซึ่งเรื่องนี้ผมถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะถ้าไม่มีความจริงใจแล้ว การผลักดันงานภายในองค์กรให้ก้าวต่อไปข้างหน้าคงเป็นเรื่องที่ยาก โดยผมมองว่าพนักงานทุกคนเป็นเพื่อนร่วมงานมากกว่าที่จะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ผมให้เกียรติพนักงานทุกคน และที่สำคัญคือเราไม่เอาเปรียบพนักงาน เนื่องจากผมคิดว่าองค์กรจะประสบความสำเร็จได้ ต้องมีทีมงานที่ดี มีคุณภาพ มีคุณธรรม ทำงานอย่างมีความสุข มีความภักดี พร้อมที่จะเต็มที่กับองค์กร ถ้าทีมงานไม่ดีคงประสบความสำเร็จได้ยาก เพราะผมไม่สามารถทำเองทุกอย่างได้  แต่ผมสามารถออกความคิด ให้คำแนะนำแสดงออกถึงภาพรวมให้เห็นได้ ดังนั้น เรื่องคนจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ด้วยเหตุนี้ ผมจึงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการคนให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลโดยอาศัยจิตวิทยาพื้นฐานเพื่อให้เขาทำงานอย่างมีความสุขเป็นคนที่ดีมีคุณภาพ และมีคุณธรรม

นอกจากนี้ ภก.วีระชัย ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับหลักการทำงานเพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จว่า   หลักการทำงานของแต่ละคนจะมีความแตกต่างกัน แต่สำหรับผมคิดว่าความมุ่งมั่นตั้งใจ และมีเป้าหมายในการทำงานถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการผลักดันไปสู่ความสำเร็จ  ทั้งนี้ หลักการทำงานของผมจะตั้งอยู่บนพื้นฐานของความซื่อสัตย์สุจริต ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน เพราะเมื่อเราทำงานด้วยกันแล้ว ถ้าไม่มีความไว้วางใจ และความซื่อสัตย์สุจริตก็คงทำงานร่วมกันลำบาก และไม่สามารถดำเนินงานต่อไปได้ หลักการต่อมาคือเรื่องของความรับผิดชอบโดยเฉพาะความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมายให้บรรลุผลสำเร็จภายในเวลาที่กำหนด  ด้วยเหตุนี้ การรักษาเวลาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องรักษาไว้เสมอ โดยผมมีคติประจำใจว่า “Procrastination is the thief of time” หรือ “การผัดวันประกันพรุ่งคือโจรขโมยเวลา” หมายความว่า อะไรก็ตามที่สามารถทำได้เลยหรือทำได้ก่อนก็ควรลงมือทำ ไม่จำเป็นต้องรอ เป็นการวางแผนไว้แล้วว่าจำเป็นต้องทำ เพราะถ้าคิดแต่ผัดไปก่อน ก็จะมีงานที่สะสมมากยิ่งขึ้น และนำไปสู่การบริหารเวลาที่ล้มเหลว ซึ่งหลักการที่กล่าวมาทั้งสามข้อล้วนเป็นสิ่งสำคัญ แต่ที่สำคัญที่สุดคือจะทำอย่างไรให้หลักการ ทั้งสามข้ออยู่ในชีวิตประจำวันเพื่อที่เราจะได้ระลึกและจดจำได้เสมอ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติของแต่ละบุคคล

ทั้งนี้ ภก.วีระชัย ยังกล่าวถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา หรืออุปสรรคเมื่อพบเจอว่า  ผมเชื่อว่า “ทุกวิกฤติมีโอกาสเสมอ ปัญหาทุกอย่างต้องมีทางออก”  โดยผมจะคิดและมองทุกอย่างในแง่บวก  ด้วยเหตุนี้ ตลอดระยะเวลาของการทำงานมาทั้งหมด ผมยังไม่เคยเจอปัญหาหรืออุปสรรคที่ทำให้รู้สึกท้อต่องานที่ทำ เพราะผมจะพยายามมองหาทางออกเสมอจึงทำให้ปัญหาทุกอย่างสามารถคลี่คลายและแก้ไขผ่านไปได้ด้วยดี ซึ่งแนวคิดนี้ผมก็ส่งผ่านไปสู่พนักงานทุกคน เพื่อสร้างแรงจูงใจและพลังบวกให้กับพวกเขา

ท้ายสุดนี้ ภก.วีระขัย กล่าวถึงก้าวต่อไปของไบโอวาลิสว่า บริษัทฯ ได้วางแผนนำวัคซีนใหม่ๆ เข้ามา โดยดูจากปัจจัยระบาดวิทยาเป็นหลัก ล่าสุดเมื่อปี 2565 บริษัทฯ ได้นำวัคซีนโรคมือ เท้า ปาก ซึ่งเป็นวัคซีนมือ เท้า ปากตัวแรกของไทยและตัวแรกของโลกนำมาจัดจำหน่ายเพื่อป้องกันโรคมือ เท้า ปากจากเชื้อ EV71 ให้กับเด็กไทย และปลายปี 2566 ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้นำวัคซีนโรคปอดอักเสบเข้ามาจำหน่าย และในอนาคตก็ยังมี Product pipeline ซึ่งเกี่ยวข้องกับวัคซีนและยาชีววัตถุอีกเป็นจำนวนมากเข้ามาจำหน่าย เพื่อส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค และเป็นประโยชน์ต่อประชากรไทย รวมถึงการธำรงในเรื่องของคุณธรรมและจริยธรรม จรรยาบรรณทางธุรกิจของบริษัท ฯ ให้คงอยู่ต่อไป หรือเข้มข้นมากขึ้น  ซึ่งก้าวต่อไปที่เรากำลังจะทำต่อไป คือ การตรวจประเมิน ISO 37001 ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการต่อต้านการติดสินบน โดยเราตั้งเป้าหมายว่าจะให้มีการตรวจผ่านการประเมินสำเร็จภายในปีนี้  เพราะเราเองก็มีพื้นฐาน และการปลูกฝังพนักงานในเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว

รายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่