สธ.น้อมนำศาสตร์พระราชา สร้างสวนสมุนไพร 12 กลุ่มโรค เพื่อความมั่นคงด้านสุขภาพ

สธ.น้อมนำศาสตร์พระราชา สร้างสวนสมุนไพร 12 กลุ่มโรค เพื่อความมั่นคงด้านสุขภาพ

เมื่อวันศุกร์ที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจงาน “แพทย์แผนไทย เทิดไท้เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร” ณ วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดพิษณุโลก โดยมี นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข, นพ.สุเทพ วัชรปิยานันทน์ อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก, ท่านผู้หญิงปรียา เกษมสันต์ ณ อยุธยา ประธานมูลนิธิพัฒนาสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี, นพ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ รองประธานมูลนิธิสถาบันพระบรมราชชนก, นายกสภาการแพทย์แผนไทย, ผู้อำนวยการวิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยคณะแพทย์แผนไทยเฝ้ารับเสด็จฯ

นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้บูรณาการการแพทย์แผนไทยเข้ามาสู่ระบบบริการสุขภาพของภาครัฐ คนไทยทุกสิทธิการรักษาเข้าถึงบริการได้ เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ ซึ่งการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรเป็นหนึ่งงานในโครงการ “ทำดีที่สุด ถวายเป็นพระราชกุศล” โดยการน้อมนำการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรมาสู่การปฏิบัติ นำไปสู่การพึ่งตนเองทั้งในระดับประเทศ ชุมชนและตนเอง อันเป็นเป้าหมายสูงสุดของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจเพื่อประชาชนคนไทยมาโดยตลอด และพระราชกรณียกิจที่ทรงเอาพระราชหฤทัยใส่นับตั้งแต่ต้นรัชกาลคือ พระราชกรณียกิจด้านแพทย์แผนไทย ทรงมีกระแสพระราชดำรัสเมื่อครั้งเสด็จทรงปลูกต้นโพศรีมหาโพธิ์ ณ สวนป่าสมุนไพรเขาหินซ้อน เมื่อวันที่ 21กรกฎาคม พ.ศ. 2523 ความว่า “ต้นไม้เป็นสมุนไพรทั้งสิ้น การเพาะชำ การปลูก และดูแลรักษา กรมป่าไม้ทราบดีรีบไปดำเนินการแทนกรรมการโครงการฯ พื้นที่ที่จะปลูกสมุนไพรตัวอย่างที่เพาะชำสมุนไพร ที่สร้างหลักศิลาจารึก และที่สร้างอาคารสำหรับศึกษาวิจัย จัดนิทรรศการ จัดการศึกษา ฝึกสอนอบรมนั้นให้มีพร้อมด้วย” นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ในการริเริ่มการพัฒนาสวนสมุนไพรในประเทศไทย เพื่อให้คนไทยมีภูมิคุ้มกันสามารถพึ่งตนเองด้านสุขภาพได้

ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับมูลนิธิสถาบันพระบรมราชชนก กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สภาการแพทย์แผนไทย ร่วมกันจัดงาน “แพทย์แผนไทย เทิดไท้เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร” เมื่อวันที่ 8-10 ธันวาคมที่ผ่านมา ณ วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดพิษณุโลก มีวัตถุประสงค์เพื่อถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน พ.ศ. 2558 รวมทั้งพระกรุณาธิคุณพระราชทานพระนาม “สิรินธร” ให้มาตั้งเป็นชื่อวิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร รวมทั้งเพื่อประกาศเจตนารมณ์ของกระทรวงสาธารณสุขที่จะพัฒนางานการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรให้มีความก้าวหน้า เกิดประโยชน์ต่อประชาชน

            ในการนี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชทานรางวัลบุคคลผู้มีผลงานวิชาการด้านการแพทย์แผนไทยดีเด่น จำนวน 9 ราย และผู้มีอุปการคุณแก่วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดพิษณุโลก 100 ราย จากนั้นเสด็จฯ ไปยังแท่นมณฑลพิธีเททอง ทรงรับแผ่นทองคำ นาก เงิน แล้วทรงหย่อนลงในเบ้าหลอมทอง ทรงถือสายสูตรเททองหล่อองค์ชีวกโกมารภัจจ์ จำนวน 12 องค์ ขนาดหน้าตัก 16 นิ้ว เพื่อนำไปประดิษฐานที่วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ทรงเป็นประธานวางศิลาฤกษ์อาคารผลิตยาสมุนไพรและยาแผนโบราณตามมาตรฐาน Good Manufacturing Practice หรือ GMP เสด็จพระราชดำเนินทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้าย “สวนสมุนไพร 12 กลุ่มโรค เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558” เพื่อให้นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปสามารถเข้าไปเรียนรู้การนำสมุนไพรไปใช้ประโยชน์ทางด้านสุขภาพได้อย่างถูกต้อง และทรงปลูกต้นปาริชาติ (ทองหลาง) ซึ่งเป็นต้นไม้มงคล ประจำปีมะแม

            จากนั้นทรงประกอบพิธี “แพทย์แผนไทยถวายบังคมเบื้องพระยุคลบาท” โดย นพ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ รองประธานมูลนิธิสถาบันพระบรมราชชนก ได้นำคณะแพทย์แผนไทย จำนวน 3,000 คนจากทั่วประเทศ เข้าถวายเครื่องราชสักการะและถวายบังคมเบื้องพระยุคลบาท ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ทรงทอดพระเนตรนิทรรศการการจัดการศึกษา ด้านการแพทย์ การสาธารณสุข และการแพทย์แผนไทย ผลงานวิชาการ นวัตกรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นของเครือข่ายวิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร และวิทยาลัยในสังกัดสถาบันพระบรมราชชนก

นพ.จักรธรรม กล่าวถึงกิจกรรมในงานว่า ภายในงานได้จัดบริการตรวจรักษาโรค บริการหัตถการทางการแพทย์แผนไทย จากแพทย์แผนไทยทั่วประเทศกว่า 3,000 คน เป็นครั้งแรกที่รวมตัวกันมากที่สุดเพื่อทำความดีถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีการจัดแสดงสวนสมุนไพร 12 กลุ่มโรคที่พบบ่อย ซึ่งประชาชนสามารถเข้าไปเรียนรู้ได้ แจกคู่มือการใช้สมุนไพร ชมสมุนไพรหายาก เช่น ชองระอา และแก้งขี้พระร่วง การจัดนิทรรศการความก้าวหน้าด้านการเรียนการสอนของแพทย์แผนไทย มีเวทีนำเสนอผลงานวิจัยด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร รวมทั้งนำนักศึกษาแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนไทยประยุกต์ แลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทางการรักษาโรคตามหลักการแพทย์แผนไทยจากแพทย์พื้นบ้านรุ่นพ่อรุ่นแม่ที่มีความเชี่ยวชาญ 

โดยในการจัดทำสวนสมุนไพร 12 กลุ่มโรคนั้น ชาวสาธารณสุขได้ตระหนักถึงการน้อมนำศาสตร์ของพระราชามาสู่การปฏิบัติ โดยเฉพาะความมั่นคงทางสุขภาพที่เป็นภารกิจที่สำคัญของกระทรวงสาธารณสุข ในงานนี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เป็นองค์ประธานในการเปิด สวนสมุนไพร 12 กลุ่มโรค ได้แก่ โรคระบบทางเดินหายใจ โรคตา โรคผิวหนัง โรคระบบทางเดินอาหาร โรคระบบทางเดินปัสสาวะ โรคสตรีและหลังตั้งครรภ์ โรคไหลเวียนโลหิต โรคพยาธิ โรคประสาทและสมอง โรคทางเพศสัมพันธ์ โรคกระดูกและข้อ และโรคหู โดยในสวนสมุนไพรนอกจากจะมีต้นไม้ มีป้ายชื่อพฤกษศาสตร์ พร้อมป้ายสรรพคุณที่ถูกต้องแล้ว ยังมีการเรียนรู้และการใช้สมุนไพรเพื่อให้นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป นำสมุนไพรไปใช้ประโยชน์ทางด้านสุขภาพได้อย่างถูกต้อง

            นอกจากนี้ยังมีการนำองค์ความรู้ด้านสมุนไพร การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก มาเผยแพร่  ผ่านครูและนักศึกษาของวิทยาลัยต่าง ๆ ในสังกัดสถาบันพระบรมราชชนก ซึ่งผลิตบุคลากรทางด้านแพทย์แผนไทยในวิทยาลัย 5 แห่ง ได้แก่ วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดพิษณุโลก ยะลา และชลบุรี วิทยาลัยเทคโนโลยีกาญจนาภิเษก และวิทยาลัยการแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร เพื่อให้ประชาชนได้เข้ามาใช้บริการและเรียนรู้นำไปใช้เพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพในอนาคต โดยมีการเตรียมงานมากว่า 2 ปี เพื่อนำศาสตร์ความรู้ทางการแพทย์แผนไทยออกมาเผยแพร่ต่อสาธารณะในรูปแบบที่เข้าใจและเข้าถึงได้ง่าย