“กระจกตาอักเสบ” โรคควรระวังของสาวรักแฟชั่น

“กระจกตาอักเสบ” โรคควรระวังของสาวรักแฟชั่น

ในปัจจุบันมีรายงานการใช้คอนแทคเลนส์ที่เพิ่มมากขึ้นในประเทศไทย ทั้งชนิดที่นำมาใช้เพื่อแก้ไขสายตาผิดปกติ เช่น สายตาสั้น ยาว เอียง รวมถึงชนิดที่ใช้เพื่อความสวยงาม ได้แก่ คอนแทคเลนส์ตาโต (Big eyes), คอนแทคเลนส์เปลี่ยนสีตา (Colored contact lens), คอนแทคเลนส์คอสเพลย์ (Cosplay) ที่มีลวดลายต่าง ๆ ซึ่งเป็นที่นิยมโดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่นและวัยทำงาน แม้ว่าคอนแทคเลนส์จะมีประโยชน์ต่อการส่งเสริมบุคลิกภาพและสร้างความมั่นใจให้ผู้ใส่คอนแทคเลนส์มีความคล่องตัวมากขึ้นในการใช้ชีวิตประจำวัน แต่กลับมีข้อมูลที่ชี้ว่ามีผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์จำนวนมากที่มิได้ตระหนักถึงผลร้ายที่อาจเกิดขึ้น และหลายครั้งมีความรุนแรงจนถึงขั้นสูญเสียดวงตาได้ถ้าเกิดการอักเสบติดเชื้อที่กระจกตา

            พญ.สมพร จันทรา จักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระจกตา โรงพยาบาลราชวิถี กล่าวว่า กระจกตานับเป็นสิ่งหนึ่งที่มีความบอบบางเป็นอย่างมาก เพราะกระจกตามีลักษณะเป็นเนื้อเยื่อใส อยู่ในส่วนหน้าสุดของลูกตา มีรูปร่างโค้ง มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร มีหน้าที่หักเหแสงเพื่อให้ตาเรามองเห็น แต่ด้วยลักษณะเฉพาะของกระจกตาที่มีความบอบบางเช่นเดียวกับเนื้อเยื่ออ่อนอื่น ๆ ในร่างกาย จึงมีความเสี่ยงต่อการอักเสบได้สูง โดยเรียกอาการอักเสบของเนื้อเยื่อกระจกตาว่า “โรคกระจกตาอักเสบ”

            จากข้อมูลทางสถิติล่าสุดระหว่างปี พ.ศ. 2550-2554 โดยโรงพยาบาลรามาธิบดี พบว่ามีผู้ป่วยจากการติดเชื้อกระจกตา 435 ราย และยังคงมีแนวโน้มของผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนมากจะมีสาเหตุจากการมีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับดวงตา เช่น มีสิ่งแปลกปลอมเข้าตา และเป็นที่น่าสนใจว่าสาเหตุที่พบมากขึ้นในปัจจุบันคือ การใช้คอนแทคเลนส์ โดยพบมากในกลุ่มอายุระหว่าง 15-25 ปี

            สำหรับผู้ที่ใช้คอนแทคเลนส์ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่กระจกตาสูง ควรมีการดูแลและป้องกัน ดังนี้

            1. การตรวจตาจากจักษุแพทย์ เพื่อประเมินว่าตนเองมีโรคที่พึงระวังในการใส่คอนแทคเลนส์หรือไม่ เช่น โรคตาแห้ง โรคภูมิแพ้ โรคตาอักเสบ ซึ่งบางโรคจำเป็นต้องใช้ยาหยอดตาเป็นประจำซึ่งอาจมีผลต่อการใส่คอนแทคเลนส์ สำหรับการตรวจค่าสายตา ค่าความโค้งของกระจกตาเพื่อเลือกชนิด ขนาดของเลนส์ และค่าสายตาที่เหมาะสม พร้อมรับฟังคำแนะนำการดูแลรักษาความสะอาดของคอนแทคเลนส์ที่ถูกต้องก็เป็นสิ่งสำคัญ

2. การเลือกซื้อคอนแทคเลนส์ ควรเลือกจากสถานที่ที่มีความน่าเชื่อถือและได้รับการอนุญาตนำเข้าคอนแทคเลนส์ที่ถูกต้อง หากเป็นผู้รับมาจำหน่ายต่อก็ควรมีหนังสือรับรองจากบริษัทผู้ผลิตว่าเป็นคอนแทคเลนส์ที่ได้มาตรฐานและถูกกฎหมาย รวมถึงไม่ควรใช้คอนแทคเลนส์มือสองที่ผ่านการใช้งานหรือมีรอยเปิดบรรจุภัณฑ์มาก่อน

3. ศึกษาขั้นตอนการใช้งานที่ถูกต้องและการทำความสะอาด โดยควรล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และเช็ดให้แห้งก่อนใส่ และถอดคอนแทคเลนส์เสมอ พร้อมปฏิบัติตามวิธีการล้างคอนแทคเลนส์อย่างเคร่งครัด โดยไม่ล้างด้วยน้ำประปาหรือน้ำเกลือเพียงอย่างเดียว

4. ใช้คอนแทคเลนส์ตามระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น เช่น รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน และรักษาความสะอาดของตลับแช่เลนส์โดยล้างสบู่ให้สะอาด ผึ่งให้แห้งทุกครั้งหลังใช้งานและควรเปลี่ยนตลับใหม่ทุกเดือน

5. ใส่คอนแทคเลนส์เฉพาะเวลาที่จำเป็น ควรใส่คอนแทคเลนส์ด้วยจำนวนชั่วโมงที่น้อยที่สุด แต่ไม่ควรนานเกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน และควรมีเวลาพักตาจากการใส่คอนแทคเลนส์ในช่วงเวลาที่ไม่ต้องใช้สายตา เช่น วันหยุด เพื่อป้องกันการเกิดภาวะกระจกตาขาดออกซิเจน ภาวะเส้นเลือดงอกใหม่ที่กระจกตา เยื่อบุตาและกระจกตาอักเสบ

            “การตระหนักถึงสัญญาณบอกอาการเสี่ยงเป็นโรคกระจกตาอักเสบเป็นสิ่งที่สำคัญ และเมื่อมีอาการดังกล่าวแล้วผู้ป่วยไม่ควรซื้อยาปฏิชีวนะมารับประทานเองเพื่อหลีกเลี่ยงการดื้อยาในอนาคต แต่ควรรีบพบจักษุแพทย์โดยเร็วที่สุด เนื่องจากการรักษาในระยะแรกเริ่มมักจะให้ผลการรักษาที่ดีกว่า โอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนน้อยกว่า ทั้งยังช่วยลดการสูญเสียการมองเห็นและการสูญเสียดวงตาได้มากยิ่งขึ้น” พญ.สมพร กล่าวทิ้งท้าย