เริ่มยา Statins หลังการเกิด Stroke ช้าหรือเร็วให้ผลไม่แตกต่างกัน

         Medscape Medical News: โดยทั่วไปหลังจากการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง ผู้ป่วยมักจะได้รับยาในกลุ่ม statins ทันที โดยหวังผลเพื่อช่วยทำให้การดำเนินโรคและผลการรักษาดีขึ้น แต่ที่ผ่านมายังไม่มีหลักฐานว่าวิธีการนี้ให้ผลดีดังกล่าวจริงหรือไม่ และผลการศึกษาล่าสุดโดย Dr.Shinichi Yoshimura และคณะผู้วิจัยจาก Hyogo College of Medicine ประเทศญี่ปุ่นเกี่ยวกับผลดีของการเริ่มใช้ยาในกลุ่ม statins หลังการเกิดโรคหลอดเลือดสมองพบว่า การเริ่มใช้ยาทันทีภายใน 24 ชั่วโมง หรือการเริ่มใช้ยาหลัง 7 วันไปแล้วนั้น ให้ผลไม่แตกต่างกันในแง่ของการฟื้นตัวของระบบประสาทหรือคุณภาพชีวิต

            การศึกษานี้เป็นการศึกษาแบบ randomized controlled trial ที่ทำขึ้นในประเทศญี่ปุ่น โดยแบ่งผู้ป่วยที่เกิดโรคหลอดเลือดสมองจำนวน 256 คน ออกเป็น 2 กลุ่มให้ได้รับการรักษาด้วยยาในกลุ่ม statins 2 แบบคือ ให้ยาภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังเกิดโรค และให้ยาในวันที่ 7 หลังจากเกิดอาการแล้ว และวัดผลโดยใช้ค่าคะแนนจาก modified Rankin scale หลังจากเกิดโรคแล้ว 90 วัน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของค่าคะแนน National Institutes of Health Stroke Scale (NIHSS) ในวันที่ 7 หลังเกิดอาการ ซึ่งผลการศึกษาพบว่าการให้ยา statins ในแต่ละวิธี ให้ผลในแง่ของค่าคะแนน modified Rankin scale ที่ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = 0.7) นอกจากนี้ค่าคะแนน NIHSS ในวันที่ 7 ของทั้ง 2 กลุ่มนั้นก็ไม่ได้มีความแตกต่างกัน (p = 0.4) อีกด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อทำการวิเคราะห์เกี่ยวกับค่า LDL ในเลือดของแต่ละกลุ่ม ก็พบว่าในกลุ่มที่ได้รับยาภายใน 24 ชั่วโมงนั้น มีระดับไขมันชนิด LDL น้อยกว่ากลุ่มที่ได้รับยาในวันที่ 7 แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = 0.001)

            ผู้วิจัยกล่าวว่า ข้อมูลก่อนหน้านี้บ่งชี้ว่าการใช้ยา statins ตั้งแต่ระยะแรกหลังเกิดโรคหลอดเลือดสมอง เช่น ใน THRaST trial จะช่วยทำให้ผลการรักษาออกมาดีกว่า แต่ในการศึกษาดังกล่าวมีการใช้ยา atorvastatin ในขนาดที่สูงและผู้ป่วยที่มีอาการมากกว่า (median NIHSS score = 12) ดังนั้น ข้อมูลจากการศึกษานี้จึงอาจบอกว่า ผู้ป่วยที่จะได้รับประโยชน์จากยากลุ่ม statins ควรเป็นกลุ่มที่มีอาการของโรคค่อนข้างมาก และควรต้องใช้ยาในขนาดสูง