สมุนไพรไทยสร้างคุณภาพชีวิตผู้ป่วยโรคมะเร็ง

สมุนไพรไทยสร้างคุณภาพชีวิตผู้ป่วยโรคมะเร็ง

            โรคมะเร็งในความหมายทางการแพทย์แผนปัจจุบันหมายถึง เนื้องอกชนิดร้าย เกิดขึ้นจากการแบ่งตัวของเซลล์อย่างรวดเร็ว ควบคุมไม่ได้ แทรกไปตามเนื้อเยื่อข้างเคียง สาเหตุเกิดจากสิ่งแวดล้อม พฤติกรรมเสี่ยง ซึ่งมาตรฐานการรักษาผู้ป่วยมะเร็งในแผนปัจจุบันคือ การผ่าตัด การให้เคมีบำบัด และการใช้รังสีรักษา เป็นต้น บางครั้งอาจใช้ศาสตร์การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกร่วมรักษาได้ในกรณีที่หมอแผนปัจจุบันให้ความเห็นชอบ

นพ.วัฒนะ พันธุ์ม่วง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน (ยศเส) กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ในทางการแพทย์แผนไทย มะเร็ง หมายถึงโรคเรื้อรังกลุ่มหนึ่ง ผู้ป่วยมักมีแผล ผื่น ตุ่ม ก้อน เกิดขึ้นตามร่างกาย การแพทย์แผนไทยเน้นในเรื่องของการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม มุ่งรักษาคนเป็นหลักเพื่อให้มีคุณภาพชีวิต ไม่ใช่รักษาตัวโรคอย่างเดียว เป็นการดูแลรักษาผู้ป่วยทั้งด้านร่างกาย จิตใจ ครอบครัว สังคม และให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ผู้ป่วยสามารถรับประทานได้ นอนหลับ ขับถ่ายสะดวก สุขภาพจิตดี อยู่กับสังคมและโรคมะเร็งได้อย่างมีความสุข 

ส่วนการใช้สมุนไพรที่มีฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็งมีหลายชนิด ทั้งยาตำรับและสมุนไพรเดี่ยว เช่น ยาเบญจอำมฤตย์ ยาเอ็นศูนย์สี่ศูนย์ (N040) ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาวิจัยในผู้ป่วย นอกจากนี้ยังใช้สมุนไพรสำหรับการรักษาแบบประคับประคอง ลดความทุกข์ทรมานต่าง ๆ ลดอาการข้างเคียงจากการรักษาแผนปัจจุบัน เช่น ยาขิงหรือชาชงขิงลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน มะระจีน มะระขี้นก ยอดหรือดอกสะเดา หรือแกงขี้เหล็กเป็นอาหารรสขมช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร ยาหอมสุขไสยาสน์ หรือยาหอมตำรับอินทจักร์ช่วยให้นอนหลับ หรือกรณีที่มีแผลจากรังสีรักษา ใช้เจลว่านหางจระเข้ ครีมบัวบก ครีมหรือเจลพญายอช่วยรักษาแผลและบรรเทาอาการอักเสบ งดของแสลงต่าง ๆ เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ของหมักดอง ห้ามสูบบุหรี่  ส่วนการบำรุงรักษาร่างกายให้แข็งแรงนั้น ควรบริโภคอาหารให้ครบ 5 หมู่ รับประทานผักพื้นบ้าน อาหารเป็นยา ใช้สมาธิบำบัดเพื่อช่วยรักษาทางจิตใจ และการออกกำลังกายที่เหมาะสม

นอกจากนี้ยาแผนไทยหรือสมุนไพรอีกกลุ่มหนึ่งที่อาจใช้ร่วมกับการรักษาแผนปัจจุบันคือ ยาแก้น้ำเหลืองเสีย ซึ่งมีผลช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย เพราะเมื่อใช้ยาคีโมจะมีผลข้างเคียงทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวในระบบภูมิคุ้มกันถูกทำลายไปด้วย ทำให้ภูมิต้านทานลดลง มีผลให้ติดเชื้อโรคต่าง ๆ ง่ายขึ้น เช่น ยาแคปซูลหรือยาชงหญ้าปักกิ่งเป็นยาแก้น้ำเหลืองเสียที่อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ยาไฟโตเพล็กซ์ขององค์การเภสัชกรรม นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรที่มีงานวิจัยรองรับว่าช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ เช่น เห็ดหลินจือมีสารเบต้ากลูแคนที่มีฤทธิ์เสริมภูมิคุ้มกัน และกระตุ้นการทำงานของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน (NK cell) ที่ฆ่าเซลล์มะเร็งได้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้วิจัยในหลอดทดลองพบว่า เจียวกู้หลานหรือปัญจขันธ์ และเถาวัลย์เปรียงเพิ่มฤทธิ์ของ NK cell ได้ 

ดังนั้น เมื่อตรวจพบเป็นมะเร็งระยะเริ่มแรกควรบำบัดรักษาด้วยการแพทย์แผนปัจจุบันให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เสียโอกาสในการรักษา และสามารถเลือกใช้สมุนไพรเพื่อช่วยบรรเทาอาการข้างเคียงได้ ส่วนกรณีผู้ป่วยระยะสุดท้ายนั้น การรักษาด้วยการแพทย์แผนไทยควบคู่กับการแพทย์แผนปัจจุบันเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ป่วย แต่ต้องปรึกษาแพทย์ผู้ให้การรักษาก่อน