Nicotine vaccine กับการอดบุหรี่
พิษภัยจากบุหรี่ไม่ว่าจะเป็นบุหรี่มือหนึ่งหรือมือสองเป็นผลให้มีการรณรงค์อดบุหรี่ที่กำลังมีกระแสมาแรงในปัจจุบัน เป็นผลให้มีการคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับช่วยในการอดบุหรี่ออกมาในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น nicotine (นิโคติน) ชนิดแผ่นแปะ หมากฝรั่ง สเปรย์พ่นจมูก แบบแท่งสูดทางปาก ยาเม็ดอม และยาอมใต้ลิ้น และยาอื่นที่ไม่ได้มีส่วนผสมของนิโคติน จนกระทั่งในปัจจุบันได้มีการพัฒนานิโคตินวัคซีนเพื่อใช้ในการช่วยอดบุหรี่ โดยมีแนวทางการศึกษามาจากกลไกการติดบุหรี่
กลไกการติดบุหรี่(1-4)
จากการศึกษากลไกการติดบุหรี่พบว่า เป็นผลมาจากสารนิโคตินในควันบุหรี่ โดยเมื่อสูบบุหรี่สูดเอาควันเข้าสู่ทางเดินหายใจ สารนิโคตินจะถูกดูดซึมผ่านเยื่อบุหลอดลมเข้าสู่หลอดเลือดฝอย และถูกนำส่งไปยังตัวจับในสมองส่วน Ventral Tegmental Area (VTA) อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่ถึง 6 วินาที สารนิโคตินจะจับกับตัวจับเฉพาะคือ alpha-4 beta-2 nicotinic acetylcholine receptor ซึ่งประกอบด้วย 2 alpha-4 subunits และ 3 beta-2 subunits วางอยู่บน postsynaptic neurons เมื่อนิโคตินเกาะกับ receptor แล้วกระตุ้นให้ receptor เกิดการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้าง โดยมีการเปิด ion channel ให้ Na, K, Ca ผ่านเข้าออกแลกเปลี่ยนกัน เกิดเป็นกระแสประสาทส่งไปยังสมองส่วนที่เรียกว่า nucleus accumbens กระตุ้นให้มีการหลั่งสารสื่อประสาทต่าง ๆ เช่น dopamine, norepinephrine, endorphin เป็นต้น สารเหล่านี้จะส่งผลให้เกิดความรู้สึกสุขสบาย จึงทำให้มีสมาธิในการทำงาน (rewarding effects) เมื่อบุหรี่หมดมวนแล้วระดับของนิโคตินในกระแสเลือดจะลดลง ทำให้สารสื่อประสาทเหล่านี้โดยเฉพาะ dopamine ทำให้ผลที่เป็น rewarding effects ลดลงไปด้วย ทำให้ผู้สูบบุหรี่รู้สึกอยากสูบบุหรี่มวนต่อไปเพื่อรักษาภาวะสภาพของ rewarding effects จากการสูบบุหรี่เอาไว้
ตารางที่ 1 ผลทางชีวภาพของสารสื่อประสาทชนิดต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้นด้วยฤทธิ์ของนิโคติน(3)
รูปที่ 1 เส้นทางที่นิโคตินจากบุหรี่เข้าสู่ร่างกายไปที่สมอง(5)
รูปที่ 2 สารนิโคตินจะจับกับตัวจับเฉพาะ คือ alpha-4 beta-2 nicotinic acetylcholine receptor และหลั่งสาร dopamine(6)
นิโคตินวัคซีน(1,4)
ในปัจจุบันมีการพัฒนา nicotine vaccine ขึ้น โดยหลักการคือ โปรตีนจะกระตุ้นให้เกิด nicotine-specific antibodies และจับกับ nicotine ที่เข้าสู่ร่างกาย เมื่อมีการสูบบุหรี่ สารนิโคตินจากบุหรี่จะเข้าสู่กระแสเลือดและถูก antibody จับทำให้นิโคตินไม่สามารถเข้าไปถึงสมองส่วน VTA ได้ หรือได้ในปริมาณที่น้อยลง ทำให้การหลั่งสาร dopamine และสารสื่อประสาทอื่น ๆ ที่ทำให้เกิด rewarding effects ลดน้อยลง ทำให้การสูบบุหรี่นั้นไม่สามารถทำให้รู้สึกสบายเหมือนที่เคยเป็น ซึ่งในที่สุดแล้วก็จะลดหรือเลิกบุหรี่ได้
รูปที่ 3 แสดงลักษณะจำลองของ antibody จับกับ nicotine(N)(7)
โดยทั่วไปแล้วการสร้าง antibody สามารถทำได้ 2 แนวทาง
รูปที่ 4 แสดงการทำงานของ Nicotine conjugate vaccine ในการกระตุ้นการสร้าง antibody(8)
ในปัจจุบันได้มีวัคซีนอยู่ 3 ชนิดที่เข้าสู่การวิจัยในมนุษย์แล้ว(1,4,9) ได้แก่
ซึ่งวัคซีนทั้ง 3 ชนิดนี้ได้ผ่านการศึกษาใน phase I และ II คาดว่าไม่นานคงจะมีผลในระยะต่อ ๆ มา และต่อไปคงจะมีใช้ในการอดบุหรี่ในอนาคต
ได้มีผู้เชี่ยวชาญให้ความกังวลเกี่ยวกับการใช้วัคซีนคือ เมื่อผู้สูบได้รับผลจากนิโคตินน้อยลงจากการสูบ อาจทำให้ผู้สูบพยายามชดเชยโดยการสูบควันบุหรี่ให้ลึกมากขึ้นจนทำให้ต้องสูบมากขึ้น ซึ่งจากการวิจัยต่าง ๆที่ผ่านมาในขณะนี้ยังไม่พบรายงานเกี่ยวกับภาวะนี้(1) ดังนั้น ยังคงต้องมีการศึกษาผลที่ตามมากันต่อไปอย่างต่อเนื่อง
เอกสารอ้างอิง