บุหรี่มือสองอาจเป็นสาเหตุของอาการนอนกรนในเด็ก

บุหรี่มือสองอาจเป็นสาเหตุของอาการนอนกรนในเด็ก

         Reuters Health Information: แม้ว่าคุณพ่อคุณแม่หรือผู้ใหญ่บางคนจะเห็นว่าการที่เด็กนอนกรนดูน่ารัก แต่ในความเป็นจริงแล้ว อาการนอนกรนเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดโรคหยุดหายใจขณะหลับ (sleep apnea) และยังส่งผลกระทบระยะยาวทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ และโรคหลอดเลือดสมองได้ และผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบทางสุขภาพจากบุหรี่มือสองล่าสุด โดย Ke Sun และคณะผู้วิจัยจาก The School of Public Health of Qingdao University ประเทศจีน ก็พบว่าบุหรี่มือสองมีความสัมพันธ์กับการเกิดอาการนอนกรนในเด็กอย่างชัดเจน

            ผลการวิจัยดังกล่าวได้มาจากการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับการสัมผัสบุหรี่มือสองในเด็กกับการเกิดความผิดปกติต่าง ๆ โดยมีประชากรในการศึกษาเป็นเด็กจำนวนเกือบ 88,000 คนในหลายประเทศ ซึ่งพบว่าการที่เด็กได้สัมผัสกับควันบุหรี่สัมพันธ์กับการเกิดอาการนอนกรนมากกว่าเด็กที่ไม่ได้สัมผัสควันบุหรี่อย่างชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้นหากเป็นการสัมผัสควันบุหรี่ในระยะที่อยู่ในครรภ์มารดาจะมีแนวโน้มเกิดอาการนอนกรนมากกว่าเด็กที่สัมผัสควันบุหรี่หลังจากที่คลอดแล้วถึงเกือบ 2 เท่าเลยทีเดียว

            นอกเหนือไปจากปัญหาเรื่องอาการนอนกรนแล้ว เด็กที่ได้สัมผัสกับบุหรี่มือสองยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดความผิดปกติชนิดอื่น ๆ มากขึ้นด้วย เช่น การติดเชื้อของทางเดินหายใจและบริเวณหู โรคหืด และโรค sudden infant death syndrome (SIDS) รวมไปถึงความผิดปกติทางพฤติกรรมต่าง ๆ เช่น โรคสมาธิสั้น (attention deficit hyperactivity disorder: ADHD)

            ผู้วิจัยและผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นเกี่ยวกับผลการวิจัยที่ออกมานี้ว่า น่าจะเป็นข้อมูลที่แพทย์สามารถนำไปใช้แนะนำหรือโน้มน้าวให้คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายที่ยังสูบบุหรี่และมีเด็กอยู่ในบ้านสามารถตัดสินใจเลิกบุหรี่ได้มากขึ้น