ข้อมูลการศึกษาใหม่ยืนยันประสิทธิภาพของการป้องกันโรคไตด้วยยารักษาเบาหวาน

ข้อมูลการศึกษาใหม่ยืนยันประสิทธิภาพของการป้องกันโรคไตด้วยยารักษาเบาหวาน

            Medscape Medical News: ข้อมูลจากการศึกษาแบบ meta-analysis เกี่ยวกับยาเบาหวานในกลุ่ม sodium-glucose cotransporter-2 (SGLT-2) ได้แก่ empagliflozin, canagliflozin และ dapagliflozin พบว่าสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคไตเรื้อรังในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้อย่างชัดเจน

จากข้อมูลรายงานเกี่ยวกับการเกิดโรคไตเฉียบพลัน (acute kidney injury) ที่เกิดขึ้นในผู้ป่วยบางรายที่ได้รับยาในกลุ่ม SGLT-2 จึงทำให้ก่อนหน้านี้ทาง FDA สหรัฐอเมริกา ออกประกาศเตือนให้มีการเฝ้าระวังและระมัดระวังการใช้ยาบางชนิดในกลุ่มนี้

ในการศึกษาครั้งนี้ ข้อมูลที่นำมาวิเคราะห์ในแบบ meta-analysis มาจากการศึกษาของ Brendon L Neuen นักศึกษาปริญญาเอกจาก The George Institute for Global Health, University of New South Wales ประเทศออสเตรเลีย ที่ได้มาจากการศึกษาต่าง ๆ ได้แก่ EMPA-REG OUTCOME (empagliflozin) CANVAS และ CREDENCE (canagliflozin) และ DECLARE-TIMI 58 (dapagliflozin) โดยมีอาสาสมัครในการศึกษาครั้งนี้รวมกว่า 38,000 คน ซึ่งผลการวิเคราะห์พบว่านอกจากยาในกลุ่มนี้จะไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงของการเกิด acute kidney injury แล้ว ยังช่วยทำให้ความเสี่ยงของโรคลดลงด้วย โดยคิดเป็น relative risk ของการลดโอกาสในการต้องรักษาด้วยการฟอกเลือดแทนไต การเปลี่ยนไต และการเสียชีวิตจากโรคไต คิดเป็น 0.75 (p < 0.001) โดยผู้ป่วยที่มีโรคไตอยู่เดิมคือ ค่า eGFR น้อยกว่า 45 mL/min/1.73 m2 ก็ยังได้รับประโยชน์จากการรักษาด้วยเช่นเดียวกัน

ปัจจุบัน American Diabetes Association (ADA) ได้ระบุคำแนะนำในการรักษาผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 เอาไว้ในแนวทางเวชปฏิบัติเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาแล้วว่า ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มีค่า eGFR ตั้งแต่ 30 mL/min/1.73 m2 ขึ้นไป และผู้ที่มีภาวะ albuminuria มากกว่า 300 mg/g สามารถพิจารณาใช้ยาในกลุ่ม SGLT-2 inhibitor เพื่อป้องกันการเกิดโรคไตเรื้อรัง และโรคหัวใจและหลอดเลือดได้