ยาที่มีผลทำให้การตรวจปัสสาวะเป็นผลบวก (ฉี่ม่วง)
อ.ดร.ภก.สิกขวัฒน์ นักร้อง วิทยาลัยเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
หลายคนเข้าใจผิดว่าเมื่อมีการใช้สารเสพติดจะทำให้ปัสสาวะออกมามีสีม่วงเลย ซึ่งจริง ๆ แล้วปัสสาวะม่วงที่ว่า หมายถึงการนำปัสสาวะ(ที่มีสีปกติ) ไปผสมกับสารเคมีพิเศษที่ใช้ในการตรวจหาสารเสพติด หากผู้ถูกตรวจมีการใช้สารเสพติดจริง สารเคมีจะทำปฏิกิริยากับปัสสาวะและเปลี่ยนให้กลายเป็นสีม่วง ทำให้ถูกเรียกติดปากว่า “ฉี่ม่วง”
การตรวจพิสูจน์เพื่อคัดแยกตัวอย่างปัสสาวะที่ให้ผลบวก คือมีความเป็นไปได้ว่าจะมีสารออกฤทธิ์ของ ยาบ้า เมทแอมเฟตามีน/แอมเฟตามีน/อีเฟดรีน หรือยาอี ผสมอยู่ออกจากตัวอย่างปัสสาวะที่ไม่มีสารเหล่านี้
ขั้นตอนการตรวจสารเสพติดทางปัสสาวะมีดังนี้
การตรวจคัดกรองขั้นต้น (Screening Test) เป็นการตรวจหาว่ามีสารเสพติดอยู่ในร่างกายหรือไม่ แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นชนิดใด วิธีการตรวจคัดกรองขั้นต้นมีอยู่ 2 หลักการ คือ
1. (Color test)
2. (Immunoassay) (Test kits) (positive) (negative)
เมื่อผลเป็นบวกจะมีการดำเนินการตรวจเพื่อยืนยันอีกครั้ง เพราะอาจมีสารหรือตัวรักษาโรคบางชนิดที่รับประทานอยู่และทำให้เกิดผลลวงได้
การตรวจยืนยัน (Confirmation Test) โดยใช้หลักการทางโครมาโตรกราฟี (Chromatography) ต่าง ๆ ซึ่งเป็นเทคนิคการตรวจขั้นสูง สามารถตรวจพบสารเสพติดที่มีปริมาณน้อยได้และสามารถแยกชนิด ระบุประเภทของสารเสพติดได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ เป็นมาตรฐานสากล นิยมนำมาใช้ตรวจคัดกรองในผู้ต้องสงสัยและตรวจประเมินในผู้ที่ต้องการรับการบำบัดสารเสพติดได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ในรายที่ตรวจคัดกรองขั้นต้นแล้วพบว่าผลเป็นบวก หรือมีข้อสงสัยว่ามีสารเสพติดในร่างกายจะต้องทำการตรวจยืนยันในขั้นต่อไป
รูปที่ 1 ขั้นตอนการตรวจสารเสพติดในร่างกาย
จากการตรวจคัดกรองขั้นต้น (Screening Test) สารที่อาจให้ผลบวกลวง หรือรบกวนการทดสอบโดยหลักการเคมีหรือคัลเลอร์เทสต์ (Color test) จากยาที่มีโครงสร้างที่เรียกว่ากลุ่ม amine อยู่ในโครงสร้างทางเคมีของยาด้วย จึงอาจจะมีโอกาสทำให้ฉี่ม่วงได้มีหลายชนิด เช่น
รูปที่ 2 ตัวอย่างการตรวจColor test
สารที่ให้ผลบวกลวง หรือรบกวนการทดสอบโดยหลักการภูมิคุ้มกันวิทยาหรือทางอิมมูโนแอสเสย์ (Immunoassay) เช่น
รูปที่ 3 วิธีการใช้และแปลผลโดย Immunoassay
จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่าการรับประทานยาบางชนิดที่มีโครงสร้างหรือองค์ประกอบคล้ายสารเสพติดให้โทษตามกฎหมายนั้นสามารถทำให้ผลการตรวจ Screen test มีผลเป็นบวกและอาจทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติด ดังนั้น เมื่อมีความจำเป็นที่ต้องใช้ยาเหล่านี้ควรมีหลักฐานหรือเอกสารใบรับรองแพทย์ต่าง ๆ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์และช่วยให้ต้องมีการตรวจละเอียดในขั้นตอนต่อไป ส่วนในบุคลากรทางการแพทย์ เช่น แพทย์ เภสัชกร ควรเข้าใจและให้คำแนะนำต่อผู้ป่วยที่ใช้ยาเหล่านี้ในการรักษาโรคด้วยเผื่อกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ต้องมีการตรวจสารเสพติด
เอกสารอ้างอิง