β-blocker ก่อนผ่าตัดใน CABG

β-blocker ก่อนผ่าตัดใน CABG

JAMA Intern Med. Published online June 16, 2014.

บทความเรื่อง Preoperative β-blocker Use in Coronary Artery Bypass Grafting Surgery: National Database Analysis รายงานว่า การใช้ยา β-blockers ก่อนผ่าตัดสัมพันธ์กับการลดลงของการตายระหว่างผ่าตัดในผู้ป่วยทำ coronary artery bypass grafting (CABG) ซึ่งเป็นผลให้การรักษาด้วย β-blocker ก่อนผ่าตัดเป็นมาตรฐานคุณภาพ

นักวิจัยศึกษาว่า การใช้ β-blocker ในระยะ 24 ชั่วโมงก่อน CABG สัมพันธ์กับการตายระหว่างผ่าตัดที่ลดลงหรือไม่ในกลุ่มตัวอย่างผู้ป่วยร่วมสมัย โดยศึกษาแบบ retrospective analysis จากฐานข้อมูล Society of Thoracic Surgeons National Adult Cardiac ซึ่งรวบรวมจากโรงพยาบาล 1,107 แห่งที่ทำ CABG ในสหรัฐอเมริการะหว่างวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2008 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 2012 ครอบคลุมผู้ป่วย 506,110 คน ซึ่งมีอายุ 18 ปีหรือมากกว่าที่ทำ non-emergent CABG และไม่มีประวัติกล้ามเนื้อหัวใจตายในช่วง 21 วันก่อน หรืออาการที่มีความเสี่ยงสูง นักวิจัยใช้ logistic regression และ propensity matching ด้วย 5-to-1 digit-matching algorithm ประเมินความสัมพันธ์ระหว่างการใช้ยา β-blocker และผลลัพธ์หลักซึ่งประกอบด้วยอุบัติการณ์ของการตายระหว่างผ่าตัด permanent stroke การใช้เครื่องช่วยหายใจระยะยาว การผ่าตัดซ้ำ ไตวาย การติดเชื้อของ deep sternal wound และ atrial fibrillation

จากผู้ป่วย 506,110 คนที่ทำ CABG และเข้าเกณฑ์การศึกษาพบว่า 86.24% ได้รับ β-blockers ภายใน 24 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด จาก propensity-matched analyses ซึ่งรวมผู้ป่วย 138,542 คนไม่พบความแตกต่างที่มีนัยสำคัญระหว่างผู้ป่วยที่ได้รับและไม่ได้รับ β-blockers ก่อนผ่าตัดในด้านอัตราตายระหว่างผ่าตัด (1.12% vs 1.17%; odds ratio [OR] 0.96 [95% CI 0.87-1.06]; p = 0.38), permanent stroke (0.97% vs 0.98%; OR 0.99 [95% CI 0.89-1.10]; p = 0.81), การใช้เครื่องช่วยหายใจระยะยาว (7.01% vs 6.86%; OR 1.02 [95% CI 0.98-1.07]; p = 0.26), การผ่าตัดซ้ำ (3.60% vs 3.69%; OR 0.97 [95% CI 0.92-1.03]; p = 0.35), ไตวาย (2.33% vs 2.24%; OR 1.04 [95% CI 0.97-1.11]; p = 0.30) และการติดเชื้อของ deep sternal wound (0.29% vs 0.34%; OR 0.86 [95% CI 0.71-1.04]; p = 0.12) อย่างไรก็ดี ผู้ป่วยที่ได้ β-blockers ภายใน 24 ชั่วโมงก่อนผ่าตัดมีอัตราที่สูงกว่าของ new-onset atrial fibrillation เทียบกับผู้ป่วยที่ไม่ได้ยา (21.50% vs 20.10%; OR 1.09 [95% CI 1.06-1.12]; p < 0.001) โดยผลลัพธ์จาก logistic regression analyses สอดคล้องกัน

การได้รับ β-blocker ก่อนผ่าตัดในผู้ป่วยที่ทำ non-emergent CABG ซึ่งปลอดจากกล้ามเนื้อหัวใจตายในช่วงไม่นานก่อนผ่าตัดไม่สัมพันธ์กับผลลัพธ์ระหว่างผ่าตัดที่ดีขึ้น