การหยุด Glucocorticoids และการกำเริบของ COPD
N Engl J Med 2014;371:1285-1294.
บทความเรื่อง Withdrawal of Inhaled Glucocorticoids and Exacerbations of COPD รายงานว่า การรักษาด้วย inhaled glucocorticoids ร่วมกับ long-acting bronchodilators ได้รับการแนะนำในผู้ป่วยที่มีการกำเริบบ่อยของโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) ที่มีอาการรุนแรง อย่างไรก็ดี ประโยชน์ของการรักษาด้วย inhaled glucocorticoids ร่วมกับ long-acting bronchodilators สองตัวยังคงไม่มีข้อมูลชัดเจน
นักวิจัยศึกษาแบบ double-blind, parallel-group study ระยะเวลา 12 เดือน โดยให้ผู้ป่วย 2,485 คนที่มีประวัติการกำเริบของ COPD ได้รับการรักษาด้วยยา 3 ตัวประกอบด้วย tiotropium (ขนาด 18 μg วันละครั้ง), salmeterol (50 μg วันละ 2 ครั้ง) และ inhaled glucocorticoid fluticasone propionate (500 μg วันละ 2 ครั้ง) ระหว่างช่วง run in 6 สัปดาห์ จากนั้นได้สุ่มให้ผู้ป่วยรักษาด้วยยา 3 ตัวต่อไปหรือหยุด fluticasone ใน 3 ขั้นตอนภายใน 12 สัปดาห์ จุดยุติปฐมภูมิ ได้แก่ ระยะเวลาจนถึงเกิดการกำเริบครั้งแรกของ COPD ปานกลางหรือรุนแรง นอกจากนี้ยังได้ติดตามผลตรวจ spirometry สถานะสุขภาพ และอาการหายใจลำบาก
เมื่อเทียบกับการรักษาต่อด้วย glucocorticoid พบว่า การหยุด glucocorticoid ถึงเกณฑ์ noninferiority ที่ 1.20 สำหรับขีดจำกัดบนของ 95% CI ด้านการกำเริบครั้งแรกของ COPD ปานกลางหรือรุนแรง (hazard ratio 1.06; 95% CI 0.94-1.19) ที่ 18 สัปดาห์ซึ่งหยุด glucocorticoid แล้วพบว่า ค่า mean reduction ที่ปรับแล้วจากพื้นฐานของ trough forced expiratory volume in 1 second สูงกว่า 38 ml ในกลุ่มหยุด glucocorticoid เทียบกับกลุ่มที่ยังคงได้ glucocorticoid (p < 0.001) โดยพบความแตกต่างใกล้เคียงกัน (43 ml) ที่ 52 สัปดาห์ (p = 0.001) แต่ไม่พบการเปลี่ยนแปลงด้านการหายใจลำบาก และพบการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยของสถานะสุขภาพในกลุ่มหยุด glucocorticoid
ในผู้ป่วย COPD อาการรุนแรงซึ่งได้รับการรักษาด้วย tiotropium ร่วมกับ salmeterol พบว่า ความเสี่ยงต่อการกำเริบปานกลางหรือรุนแรงใกล้เคียงกันในผู้ที่หยุด inhaled glucocorticoids และผู้ที่ยังคงได้ glucocorticoid อย่างไรก็ดี พบการลดลงมากกว่าของสมรรถภาพปอดระหว่างขั้นตอนสุดท้ายของการหยุด glucocorticoid