นพ.สมัย ศิริทองถาวร การทำความดีอยู่ที่จุดไหนของสังคมย่อมทำได้

นพ.สมัย ศิริทองถาวร  การทำความดีอยู่ที่จุดไหนของสังคมย่อมทำได้

ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตนเป็นที่สอง

ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง   ลาภทรัพย์และเกียรติยศจะตกมาแก่ท่านเอง

ถ้าท่านทรงธรรมะแห่งวิชาชีพไว้ให้บริสุทธิ์

(พระอนุศาสน์ของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก)

พระโอวาทคำสอนของสมเด็จพระบรมราชชนกเป็นคำสอนที่ นพ.สมัย ศิริทองถาวร ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์ จังหวัดเชียงใหม่ แพทย์ดีเด่นแพทยสภา สาขาผู้บริหาร ประจำปี พ.. 2557 ยึดถือเป็นคติคำสอนที่จำขึ้นใจมาตั้งแต่สมัยเรียน เนื่องจากเห็นว่าเป็นคำสอนที่สามารถนำมาใช้ได้กับทุกเรื่อง ทุกสมัย ทั้งเรื่องส่วนตัวและการงานในหน้าที่ จึงทำให้ตลอดระยะเวลาของการเป็นผู้บริหารของกรมวิชาการ ท่านจึงมุ่งมั่นทำหน้าที่อย่างดียิ่ง ครบถ้วนตามภารกิจของกรมสุขภาพจิต ด้วยเหตุผลที่ว่า “การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลา ไม่หยุดนิ่ง เป็นผู้นำในวันนี้ไม่ว่าจะเป็นด้านวิชาการ บริหาร บริการ สักวันหนึ่งก็ไม่ได้เป็น จึงต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน จะทำให้คนคิดถึงเราตลอดไป การทำความดีอยู่ที่จุดไหนของสังคมย่อมทำได้ทั้งนั้น ขอเพียงแต่ทำให้ดีที่สุด ก็จะมีคนเห็น อย่างน้อยก็ตัวเราเอง”

นพ.สมัย สําเร็จการศึกษาจากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปัจจุบันเป็นผู้อํานวยการสถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์ จังหวัดเชียงใหม่ ท่านเป็นผู้ริเริ่มโครงการ Child First-Work Together เพื่อพัฒนางานบริการของหน่วยงานด้วยการบูรณาการงาน, การวิจัย และพัฒนาเครื่องมือในการคัดกรอง ประเมินและส่งเสริมพัฒนาการเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 5 ขวบ, จัดทําห้องสมุดของเล่นเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 72 พรรษา, จัดทําโครงการดูแลผู้บกพร่องทางสติปัญญาและเด็กที่มีพัฒนาการล่าช้าในศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้พิการ, จัดทําโครงการคลินิกละคร และดนตรีบําบัดสําหรับเด็กพัฒนาการล่าช้า

นพ.สมัย กล่าวถึงโครงการ Child First-Work Together ว่า มีรากฐานการทำงานมาจากการให้บริการทางการแพทย์ในชุมชนเพื่อลดจำนวนเด็กที่มีปัญหาพัฒนาการล่าช้า โดยระยะเริ่มต้นเน้นการให้ความรู้ ทักษะ สื่อ อุปกรณ์ แต่ในการดำเนินงานพบว่าปัญหายังคงมีอยู่และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อีกทั้งการให้บริการทางการแพทย์ในชุมชนยังมีข้อจำกัด เครื่องมือที่ใช้มีความแตกต่างกัน และไม่มีเกณฑ์มาตรฐานในเด็กไทย รวมถึงพบปัญหาสุขภาพจิตในผู้ปกครอง ซึ่งไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เด็กจำเป็นต้องได้รับการส่งเสริมพัฒนาการอย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง ดังนั้น จึงได้มีการเปลี่ยนแปลงแนวคิดในการพัฒนาการให้บริการทางการแพทย์ในชุมชนโดยใช้หลักการบูรณาการ ร่วมมือมีส่วนร่วม และภาคีเครือข่าย มีการให้บริการเชิงรุกสนับสนุนให้บุคลากรที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ปกครองสามารถคัดกรอง ประเมินและส่งเสริมพัฒนาการเด็กได้เอง และมีการสนับสนุนทางด้านจิตใจและสังคมของครอบครัว มีการให้บริการที่คำนึงถึงธรรมชาติของเด็ก อีกทั้งยังมีการพัฒนางานบริการบนฐานวิชาการและจากสภาพปัญหาและความต้องการของชุมชน มีการวิจัยและพัฒนาเครื่องมือในการคัดกรอง ประเมินและส่งเสริมพัฒนาการเด็กของประเทศไทย และมีการหาค่ามาตรฐานในเด็กไทย

นอกจากนี้ นพ.สมัย ยังได้ริเริ่มในการพัฒนาองค์ประกอบอื่น ๆ ที่มีผลต่อการพัฒนาการเด็กควบคู่กันไป เช่น การพัฒนาผู้ปกครองทั้งความรู้ อาชีพ พัฒนาครู และพัฒนาชุมชน ศูนย์เรียนรู้สําหรับเครือข่ายเพื่อให้มีศักยภาพในการช่วยส่งเสริมดูแลเด็กได้ดีเพื่อกลับคืนสู่ชุมชน เป็นการพัฒนางานเชิงระบบเพื่อความยั่งยืน ในส่วนขององค์ความรู้ นพ.สมัย มีผลงานด้านหนังสือหลายเล่ม ทั้งประเภทที่เกี่ยวกับการพัฒนาการแก่เด็กที่มีพัฒนาการช้า การเสริมสร้าง IQ, EQ และ AQ วารสารวิชาการนานาชาติด้านสุขภาพจิตและพัฒนาการเด็ก โดยเฉพาะหนังสือ “ฝ่าฝันให้ถึงฝั่ง คําตอบของแม่ที่มีลูกสมองพิการ” ที่ได้รับการตีพิมพ์ถึงสองครั้ง ซึ่งครั้งหลังพิมพ์ถึง 35,000 เล่ม โดยกระทรวงศึกษาธิการมีงานวิจัยจํานวนมากที่สร้างสรรค์ ยึดหลักวิชาการในการทําวิจัย โดยเฉพาะในกลุ่มแบบประเมินการพัฒนาการเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึงอายุ 5 ปีที่เริ่มจากงานในพื้นที่สู่เครือข่ายสาธารณสุข ผู้ปกครอง จนถึงระดับประเทศ จนเกิดแบบประเมินและคู่มือในการประเมินและส่งเสริมการพัฒนาเด็กแรกเกิดจนถึง 5 ปีที่เป็นมาตรฐานของเด็กไทยเองเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากสํานักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติและสํานักงบประมาณ ซึ่งเป็นผลงานเด่นของชาติจนได้นําเสนอผลงานในระดับนานาชาติ และที่น่าประทับใจคือ นพ.สมัย เป็นผู้ริเริ่มโครงการ Child First-Work Together เป็นการบูรณาการงานบริการของหน่วยงานร่วมกับผู้ปกครอง ชุมชน เครือข่ายต่าง ๆ ทั้งหน่วยงานในกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอื่น ๆ รวมทั้งมิติของการบูรณาการในการพัฒนาคน เครื่องมือ เพื่อให้เกิดการร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เดินไปด้วยกันในการคัดกรอง ส่งเสริมพัฒนาการของเด็กโดยคํานึงถึงธรรมชาติของเด็กและความพร้อมของพื้นที่ เพื่อลดจํานวนเด็กที่มีพัฒนาการล่าช้า ผลงานชิ้นนี้ได้รับรางวัลชนะเลิศ UN Public Service Award ปี ค.ศ. 2013 ในระดับภาคพื้น Asia-Pacific และได้รับเชิญให้เป็นวิทยากรถ่ายทอดองค์ความรู้นี้ในต่างประเทศ เป็นการสร้างชื่อเสียงให้กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข และประเทศไทย

ด้านการครองคน นพ.สมัย เป็นคนที่มีน้ำใจกับคนรอบข้าง เมื่อเจ็บป่วยจะดูแล ไปเยี่ยม ให้กําลังใจ คอยช่วยเหลือผู้อื่นบนความสามารถและความถูกต้อง ท่านเป็นคนที่เข้ากับคนง่าย เป็นกันเอง จริงใจ ท่านจึงมีเครือข่ายมาก รวมทั้งคนที่อยากร่วมทํางานด้วยจํานวนมาก มีความหวังดีต่อผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ใต้บังคับบัญชา ท่านจะเปิดโอกาสให้พัฒนาตนเอง ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการพัฒนาตนเองตลอดเวลาเฉกเช่นเดียวกับตัวท่านเอง ซึ่งแสดงถึงการมีเมตตาธรรมของผู้บริหาร ท่านมีความสามารถในการบริหารการเงินการคลังได้ดี สามารถสร้างความมั่นคงให้แก่องค์กร และให้ค่าตอบแทนตามภาระงานแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาได้เต็มที่ตามระเบียบ เป็นคนที่คิดดี วิเคราะห์เก่ง ตัดสินใจได้รวดเร็ว ซึ่งบ่อยครั้งที่ผู้ร่วมงานตามความคิดของท่านไม่ทัน แต่ลึก ๆ ท่านเป็นนักประชาธิปไตย ยอมรับความเห็นของผู้อื่นหากถูกต้องและดีกว่า นอกจากนี้ท่านยังเป็นคนที่ทุ่มเทกําลังกาย สติปัญญา และเวลาให้แก่งานอย่างมาก จนผู้ร่วมงานทั้งคนไทยและต่างชาติพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เอาพลังงานจากไหนมาทํางานได้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย”

ทั้งนี้ ในด้านการครองงาน นพ.สมัย เป็นคนที่คิดดี เป็นนักคิด นักวิเคราะห์ นักนวัตกรรม นักพัฒนา ตัดสินใจได้รวดเร็ว มุ่งมั่นทุ่มเทต่องานที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม มีเครือข่ายมากจนสามารถสร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์มากมาย ผลงานส่วนใหญ่เป็นงานที่ท่านคิดริเริ่มเองเกือบทั้งหมด เช่น ขั้นพื้นฐานที่คิดปรับปรุงสถานที่ให้น่าอยู่ น่าทํางาน มีเครื่องมืออุปกรณ์ที่ทันสมัยในการพัฒนาการผู้ป่วยหลาย ๆ วิธีการ จนปัจจุบันมีอาคารต้นแบบเพื่อเป็นศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพด้านการพัฒนาเด็กแห่งแรกของประเทศไทยที่สวยงาม ทันสมัย สถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์มีห้องสมุดที่นอกจากจะมีหนังสือแล้ว ยังมีของเล่นให้ยืมกลับบ้านเพื่อใช้ในการพัฒนาการเด็กตามภาวะโรค ตามวัย เป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง ห้องสมุดได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น จนปัจจุบันมีของเล่นเด็กมากกว่า 1,100 รายการ มีของมากกว่า 3,700 ชุด พร้อมทั้งมีการพัฒนาผู้ปกครองให้สามารถผลิตของเล่นที่ช่วยในการพัฒนาการขึ้นใช้เองที่บ้านอีกด้วย มีการนําการวาดรูป ดนตรี ละคร มาประยุกต์ใช้ในการรักษาและพัฒนาการผู้ป่วยซึ่งได้รับการสนับสนุนจากในประเทศและต่างประเทศ ท่านเป็นผู้ริเริ่มโครงการจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์พระราชทานภายใต้พระนามสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยในการเคลื่อนไหว ซึ่งดูแลแบบองค์รวมทั้งกาย จิต และสังคม ได้รับการสนับสนุนจากต่างประเทศ เช่น นอร์เวย์ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ทั้งรถเข็น ไม้ค้ำยัน ไม้เท้า เก้าอี้สุขภัณฑ์ เป็นต้น รวมทั้งมีบุคลากรต่างชาติมาช่วยปรับให้เหมาะกับผู้ป่วยแต่ละรายซึ่งทํามานานกว่า 14 ปี จํานวนสิ่งของที่แจกจ่ายไปแล้วมากกว่า 10,000 รายการ มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท

ท้ายสุดนี้ นพ.สมัย ได้เล่าถึงความในใจที่ถ่ายทอดมาจากส่วนหนึ่งของประสบการณ์ว่า ระหว่างกระต่ายกับเต่า คนส่วนใหญ่อยากเป็นกระต่ายที่ทำงานถึงเป้าหมายก่อน แต่ไม่ว่าเราจะเป็นกระต่ายหรือเต่า ขอให้มีความมุ่งมั่นที่จะไปให้ถึงจุดหมาย และไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนา เพราะพี่น้องเราส่วนใหญ่อยู่ในสภาวะที่ยากลำบากในชนบท ย่อมขยับทีละน้อยเหมือนเต่า คือเดินได้อย่างช้า ๆ เท่านั้น แต่หากไม่ย่อท้อย่อมไปถึงเป้าหมายดั่งใจ อย่างเช่นในนิทานอีสป