การอยู่รอดโดยรวมในมะเร็ง Melanoma จากการรักษาด้วย Dabrafenib ร่วมกับ Trametinib

การอยู่รอดโดยรวมในมะเร็ง Melanoma จากการรักษาด้วย Dabrafenib ร่วมกับ Trametinib

N Engl J Med 2015;372:30-39.

บทความเรื่อง Improved Overall Survival in Melanoma with Combined Dabrafenib and Trametinib รายงานว่า vemurafenib และ dabrafenib ซึ่งเป็น BRAF inhibitors มีประสิทธิภาพในการรักษาแบบ monotherapy ในผู้ป่วย metastatic melanoma ซึ่งมี mutation ของ BRAF V600E หรือ V600K mutation และไม่เคยรักษามาก่อน และการรักษาด้วย dabrafenib ร่วมกับ trametinib ซึ่งเป็น MEK inhibitor สามารถเพิ่มการต้านมะเร็งในผู้ป่วยกลุ่มนี้เทียบกับการรักษาด้วย dabrafenib อย่างเดียว

นักวิจัยสุ่มให้ผู้ป่วย metastatic melanoma 704 คนซึ่งมี BRAF V600 mutation ได้รับการรักษาด้วย dabrafenib (150 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง) และ trametinib (2 มิลลิกรัม วันละครั้ง) หรือ vemurafenib (960 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง) แบบยารับประทานโดยให้เป็น first-line therapy และจุดยุติปฐมภูมิ ได้แก่ การอยู่รอดโดยรวม

จากการวิเคราะห์การอยู่รอดโดยรวมหลังเกิดเหตุการณ์ร้อยละ 77 จากจำนวนที่คาดการณ์ไว้พบว่า อัตราการอยู่รอดโดยรวมที่ 12 เดือนเท่ากับ 72% (95% confidence interval [CI] 67-77) ในกลุ่ม combination therapy และ 65% (95% CI 59-70) ในกลุ่มที่ได้รับ vemurafenib (hazard ratio สำหรับการเสียชีวิตในกลุ่ม combination-therapy group เท่ากับ 0.69; 95% CI 0.53-0.89; p = 0.005) การศึกษายุติก่อนกำหนดด้วยเหตุผลด้านประสิทธิภาพในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2014 มัธยฐานการอยู่รอดโดยโรคสงบเท่ากับ 11.4 เดือนในกลุ่ม combination therapy และ 7.3 เดือนในกลุ่มที่ได้รับ vemurafenib (hazard ratio 0.56; 95% CI 0.46-0.69; p < 0.001) อัตรา objective response rate เท่ากับ 64% ในกลุ่ม combination therapy และ 51% ในกลุ่มที่ได้รับ vemurafenib (p < 0.001) อัตราการเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรงและการหยุดยาที่ศึกษาอยู่ในระดับใกล้เคียงกันระหว่างทั้ง 2 กลุ่ม โดยพบ cutaneous squamous-cell carcinoma และ keratoacanthoma เกิดขึ้นใน 1% ของผู้ป่วยในกลุ่ม combination therapy และ 18% ในกลุ่มที่ได้รับ vemurafenib

การรักษาด้วย dabrafenib ร่วมกับ trametinib เพิ่มการอยู่รอดโดยรวมได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับการรักษาด้วย vemurafenib อย่างเดียวในผู้ป่วย metastatic melanoma ซึ่งมี mutation ของ BRAF V600E หรือ V600K และไม่เคยได้รับการรักษามาก่อนโดยไม่ทำให้ความเป็นพิษโดยรวมสูงขึ้น