Capecitabine และ Bevacizumab ใน Metastatic Colorectal Cancer

Capecitabine และ Bevacizumab ใน Metastatic Colorectal Cancer

Lancet. 2015;385(9980):1843-1852.

บทความเรื่อง Maintenance Treatment with Capecitabine and Bevacizumab in Metastatic Colorectal Cancer (CAIRO3): A Phase 3 Randomised Controlled Trial of the Dutch Colorectal Cancer Group รายงานว่า ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับระยะที่เหมาะสมของการรักษา first line ด้วยเคมีบำบัดร่วมกับ bevacizumab ในผู้ป่วย metastatic colorectal cancer จึงนำมาสู่การศึกษา CAIRO3 เพื่อประเมินประสิทธิภาพของ maintenance treatment ด้วย capecitabine ร่วมกับ bevacizumab เทียบกับการสังเกตอาการ

การศึกษาทำในผู้ป่วยชาวฮอลแลนด์ซึ่งอายุมากกว่า 18 ปี และไม่เคยได้รับการรักษา ผู้ป่วยมี stable disease หรือดีขึ้นหลังการรักษาด้วย capecitabine, oxaliplatin และ bevacizumab (CAPOX-B) รวม 6 cycles มี performance status ตามองค์การอนามัยโลกเท่ากับ 0 หรือ 1 และมีการทำงานของไขกระดูก ตับ และไตในเกณฑ์ดี ผู้ป่วยได้รับ maintenance treatment ด้วย capecitabine และ bevacizumab (maintenance group) หรือสังเกตอาการ (observation group) โดยสุ่มด้วยวิธี minimization และแบ่งชั้นตามประวัติ adjuvant chemotherapy, การตอบสนองต่อinduction treatment, WHO performance status, serum lactate dehydrogenase concentration และโรงพยาบาลที่รักษา การประเมินสถานะของโรคได้ทำทุก 9 สัปดาห์ และผู้ป่วยในทั้ง 2 กลุ่มจะได้รับ induction regimen ของ CAPOX-B เมื่อพบการลุกลามครั้งแรก (PFS1) จนกว่าจะพบการลุกลามครั้งที่ 2 (PFS2) อันเป็นจุดยุติปฐมภูมิของการศึกษา จุดยุติทั้งหมดคำนวณจากเวลาที่สุ่ม และวิเคราะห์แบบ intention-to-treat

ระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม ค.ศ. 2007 ถึงวันที่ 15 ตุลาคม ค.ศ. 2012 มีผู้ป่วย 558 คนที่สุ่มเป็นกลุ่ม maintenance group (n = 279) หรือ observation group (n = 279) มัธยฐานการติดตามเท่ากับ 48 เดือน (IQR 36-57) จุดยุติปฐมภูมิของมัธยฐาน PFS2 ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในผู้ป่วยที่ได้รับ maintenance treatment โดยมีผลลัพธ์เท่ากับ 8.5 เดือนในกลุ่ม observation group และ 11.7 เดือนในกลุ่ม maintenance group (HR 0.67, 95% CI 0.56-0.81, p < 0.0001) ความต่างดังกล่าวยังคงมีนัยสำคัญเมื่อพิจารณาการรักษาใดก็ตามที่ได้รับหลัง PFS1 ทั้งนี้ maintenance treatment มีความทนต่อยาที่ดี แต่พบอุบัติการณ์ที่สูงขึ้นของโรคมือเท้า (64 ราย [23%] มีอาการที่มือและเท้าระหว่าง maintenance) อนึ่ง คุณภาพชีวิตโดยรวมไม่เสื่อมลงระหว่าง maintenance treatment และไม่พบความแตกต่างทางคลินิกระหว่างทั้ง 2 กลุ่ม

การรักษาด้วย capecitabine ร่วมกับ bevacizumab หลังรักษาด้วย CAPOX-B มาแล้ว 6 cycles ในผู้ป่วย metastatic colorectal cancer มีประสิทธิภาพดีและไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต