ติดตามการควบคุมระดับน้ำตาลต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดในเบาหวานชนิดที่ 2
N Engl J Med 2015;372:2197-2206.
บทความเรื่อง Follow-up of Glycemic Control and Cardiovascular Outcomes in Type 2 Diabetes อ้างถึงการศึกษา Veterans Affairs Diabetes Trial รายงานว่า การลดระดับน้ำตาลในเลือดอย่างเคร่งครัดไม่ได้ลดอัตราของเหตุการณ์โรคหัวใจและหลอดเลือดในกลุ่มตัวอย่าง 1,791 รายได้อย่างมีนัยสำคัญเทียบกับการรักษามาตรฐาน (มัธยฐานการติดตาม 5.6 ปี) โดยบทความนี้ได้รายงานผลจากการติดตามต่อในผู้ป่วยดังกล่าว
ภายหลังสิ้นสุดการศึกษา นักวิจัยได้ติดตามกลุ่มตัวอย่างโดยอาศัยฐานข้อมูลกลางระบุหัตถการ การรับเข้าโรงพยาบาล และการเสียชีวิต (complete cohort โดยมีข้อมูลการติดตามสำหรับ 92.4% ของกลุ่มตัวอย่าง) กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ยอมรับให้เก็บข้อมูลเพิ่มเติมด้วยสำรวจปีละครั้งและทบทวนระเบียนเป็นระยะ (survey cohort โดยมีข้อมูลการติดตามสำหรับ 77.7%) ผลลัพธ์หลัก ได้แก่ ระยะเวลาจนถึงเกิดเหตุการณ์ของโรคหัวใจและหลอดเลือดที่รุนแรงครั้งแรก (หัวใจวาย สโตรค หัวใจล้มเหลวที่เพิ่งเป็นหรือรุนแรงขึ้น การตัดอวัยวะจาก ischemic gangrene หรือการตายเนื่องจากโรคหัวใจและหลอดเลือด) และผลลัพธ์รอง ได้แก่ การตายเนื่องจากโรคหัวใจและหลอดเลือด และการตายทุกสาเหตุ
ความต่างของระดับ glycated hemoglobin ระหว่างกลุ่มที่รักษาอย่างเคร่งครัดและกลุ่มรักษามาตรฐานเฉลี่ยอยู่ที่ 1.5 percentage points ระหว่างการศึกษา (มัธยฐาน 6.9% vs 8.4%) และลดลงมาที่ 0.2-0.3 percentage points ภายใน 3 ปีหลังสิ้นสุดการรักษา จากมัธยฐานการติดตาม 9.8 ปี พบว่ากลุ่มที่รักษาอย่างเคร่งครัดมีความเสี่ยงต่ำกว่าอย่างมีนัยสำคัญต่อผลลัพธ์หลักเทียบกับกลุ่มรักษามาตรฐาน (hazard ratio 0.83; 95% confidence interval [CI] 0.70-0.99; p = 0.04) โดยมี absolute reduction ของความเสี่ยงเหตุการณ์โรคหัวใจและหลอดเลือดที่รุนแรงเท่ากับ 8.6 เหตุการณ์ต่อ 1,000 person-years ขณะที่การตายเนื่องจากโรคหัวใจและหลอดเลือดไม่ลดลง (hazard ratio 0.88; 95% CI 0.64-1.20; p = 0.42) แต่ไม่พบการลดลงของการตายรวม (hazard ratio ในกลุ่มที่รักษาเคร่งครัดเท่ากับ 1.05; 95% CI 0.89-1.25; p = 0.54; มัธยฐานการติดตามเท่ากับ 11.8 ปี)
ข้อมูลจากการติดตามร่วม 10 ปี พบว่าผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งสุ่มให้ควบคุมน้ำตาลอย่างเคร่งครัดเป็นเวลา 5.6 ปี มีเหตุการณ์ของโรคหัวใจและหลอดเลือดต่ำลง 8.6 เหตุการณ์ต่อ 1,000 person-years เทียบกับกลุ่มรักษามาตรฐาน แต่ไม่พบผลลัพธ์ที่ดีขึ้นด้านอัตราการรอดชีวิตโดยรวม