ความเสี่ยงหัวใจและหลอดเลือดหลังการรักษา Hodgkin Lymphoma

ความเสี่ยงหัวใจและหลอดเลือดหลังการรักษา Hodgkin Lymphoma

JAMA Intern Med. 2015;175(6):1007-1017.

บทความเรื่อง Cardiovascular Disease after Hodgkin Lymphoma Treatment: 40-Year Disease Risk รายงานว่า ผู้ป่วยที่รอดชีวิตจากมะเร็ง Hodgkin lymphoma มีความเสี่ยงสูงขึ้นต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าความเสี่ยงดังกล่าวจะคงอยู่นานเท่าใด และมีปัจจัยใดที่ส่งผลต่อความเสี่ยงหัวใจและหลอดเลือด

การศึกษาได้ประเมินความเสี่ยงสัมพัทธ์และความเสี่ยงสัมบูรณ์จนถึง 40 ปีนับจากการรักษามะเร็ง Hodgkin lymphoma เทียบกับอุบัติการณ์ของโรคหัวใจและหลอดเลือดในกลุ่มประชากรทั่วไป และศึกษาปัจจัยเสี่ยงจากการรักษาต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยศึกษาในผู้ป่วยชาวดัตช์ 2,524 ราย ซึ่งตรวจพบมะเร็ง Hodgkin lymphoma ขณะอายุน้อยกว่า 51 ปี (อายุมัธยฐาน 27.3 ปี) ซึ่งได้รับการรักษาระหว่างวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1965 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 1995 และมีชีวิตอยู่ถึง 5 ปีนับจากตรวจพบ

ผู้ป่วยได้รับการรักษา Hodgkin lymphoma รวมถึงการฉายแสงบริเวณโพรงอก และ anthracycline โดยจัดระดับเหตุการณ์ของโรคหัวใจและหลอดเลือดรวมถึง coronary heart disease (CHD), valvular heart disease (VHD) และ cardiomyopathy และ congestive heart failure (HF) ด้วย Common Terminology Criteria for Adverse Events, version 4.0

หลังจากมัธยฐานการติดตาม 20 ปี พบเหตุการณ์ของโรคหัวใจและหลอดเลือด 1,713 เหตุการณ์ในผู้ป่วย 797 ราย หลังจาก 35 ปีพบว่า ผู้ป่วยยังคงมี standardized incidence ratio สูงขึ้น 4-6 เท่าต่อ CHD หรือ HF เทียบกับกลุ่มประชากรทั่วไป โดยมีเหตุการณ์ของโรคสูงกว่า 857 เหตุการณ์ต่อ 10,000 person-years ความเสี่ยงสัมพัทธ์สูงสุดพบในผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาก่อนอายุ 25 ปี แต่ก็พบความเสี่ยงสัมบูรณ์ที่สูงในผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาเมื่ออายุมากกว่าด้วย โดยมีอุบัติการณ์สะสมของโรคหัวใจและหลอดเลือดในระยะ 40 ปีเท่ากับ 50% (95% CI 47%-52%) และ 51% ของผู้ป่วยที่มีโรคหัวใจและหลอดเลือดเกิดเหตุการณ์ของโรคหลายครั้ง สำหรับผู้ป่วยที่รักษาก่อนอายุ 25 ปีพบว่า อุบัติการณ์การสะสมที่อายุ 60 ปีหรือมากกว่าเท่ากับ 20%, 31% และ 11% สำหรับ CHD, VHD และ HF ที่เกิดขึ้นครั้งแรก การฉายแสงบริเวณโพรงอกเพิ่มความเสี่ยงต่อ CHD (hazard ratio [HR] 2.7; 95% CI 2.0-3.7), VHD (HR 6.6; 95% CI 4.0-10.8) และ HF (HR 2.7; 95% CI 1.6-4.8) ขณะที่เคมีบำบัดซึ่งมี anthracycline เพิ่มความเสี่ยงต่อ VHD (HR 1.5; 95% CI 1.1-2.1) และ HF (HR 3.0; 95% CI 1.9-4.7) ที่เกิดขึ้นครั้งแรกเทียบกับผู้ป่วยที่ไม่ได้ฉายแสงโพรงอกหรือไม่ได้รับ anthracyclines และพบด้วยว่าการฉายแสงโพรงอกอาจมีผลร่วมกับ anthracyclines และการสูบบุหรี่

ข้อมูลจากการศึกษาชี้ว่า ผู้ป่วยมะเร็ง Hodgkin lymphoma ซึ่งได้รับการรักษาในช่วงวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่มีความเสี่ยงสูงขึ้นต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด ดังนั้น แพทย์และผู้ป่วยควรตระหนักถึงความเสี่ยงที่สูงขึ้นในระยะยาวดังกล่าว