Pembrolizumab สำหรับเมลาโนมาดื้อต่อ Ipilimumab
Lancet Oncology. Published Online: 23 June 2015.
บทความเรื่อง Pembrolizumab versus Investigator-Choice Chemotherapy for Ipilimumab-Refractory Melanoma (KEYNOTE-002): A Randomised, Controlled, Phase 2 Trial รายงานว่า ผู้ป่วยมะเร็งเมลาโนมาซึ่งยังคงมีการลุกลามจากการรักษาด้วย ipilimumab รวมถึง BRAF หรือ MEK inhibitor หรือทั้งสองอย่างกรณีมี BRAFV600 mutant-positive มีข้อจำกัดด้านทางเลือกการรักษา การศึกษานี้ได้ประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัยของ pembrolizumab 2 ขนาดเทียบกับเคมีบำบัดที่ผู้วิจัยเลือกในผู้ป่วยเมลาโนมาที่ดื้อยา ipilimumab
ผู้วิจัยศึกษาจากผู้ป่วยอายุ 18 ปีหรือมากกว่าจากสถานพยาบาล 73 แห่งใน 12 ประเทศ ซึ่งตรวจพบการลุกลามของโรคภายใน 24 สัปดาห์หลังได้รับ ipilimumab 2 ขนาดหรือมากกว่า และได้รับการรักษาด้วย BRAF หรือ MEK inhibitor หรือทั้งสองอย่างกรณีมี BRAFV600 mutant-positive เกณฑ์การศึกษา ได้แก่ เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จาก ipilimumab ที่ทุเลาลงมาที่ grade 0-1 และได้รับ prednisone 10 มิลลิกรัม/วัน หรือน้อยกว่าอย่างน้อย 2 สัปดาห์ มี Eastern Cooperative Oncology Group (ECOG) performance status เท่ากับ 0 หรือ 1 และมีรอยโรคที่วัดขนาดได้อย่างน้อยหนึ่งจุด ผู้ป่วยได้รับ pembrolizumab 2 มิลลิกรัม/กิโลกรัม หรือ 10 มิลลิกรัม/กิโลกรัมทางหลอดเลือดดำทุก 3 สัปดาห์ หรือยาเคมีบำบัดตามที่ผู้วิจัยเลือก (paclitaxel ร่วมกับ carboplatin, paclitaxel, carboplatin, dacarbazine หรือ oral temozolomide) การสุ่มได้แบ่งตาม ECOG performance status, lactate dehydrogenase concentration และ BRAFV600 mutation status การรักษาด้วย pembrolizumab และเคมีบำบัดเป็นแบบ open label โดยปกปิดขนาดยา pembrolizumab และจุดยุติปฐมภูมิได้แก่ การรอดชีวิตโดยโรคสงบใน intention-to-treat population
มีผู้ป่วยเข้าร่วมการศึกษา 540 ราย ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน ค.ศ. 2012 ถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 2013 โดย 180 รายได้รับ pembrolizumab 2 มิลลิกรัม/กิโลกรัม, 181 รายได้รับ pembrolizumab 10 มิลลิกรัม/กิโลกรัม และ 179 รายได้รับเคมีบำบัด จากการรอดชีวิตโดยโรคสงบ 410 เหตุการณ์พบว่า การรอดชีวิตโดยโรคสงบดีขึ้นในผู้ป่วยที่ได้ pembrolizumab 2 มิลลิกรัม/กิโลกรัม (HR 0.57, 95% CI 0.45-0.73; p < 0.0001) และ pembrolizumab 10 มิลลิกรัม/กิโลกรัม (0.50, 0.39-0.64; p < 0.0001) เทียบกับกลุ่มที่ได้รับเคมีบำบัด การรอดชีวิตโดยโรคสงบที่ 6 เดือนเท่ากับ 34% (95% CI 27-41) ในกลุ่มที่ได้ pembrolizumab 2 มิลลิกรัม/กิโลกรัม, 38% (31-45) ในกลุ่มที่ได้ 10 มิลลิกรัม/กิโลกรัม และ 16% (10-22) ในกลุ่มที่ได้เคมีบำบัด เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ระดับ grade 3-4 พบในผู้ป่วย 20 ราย (11%) ในกลุ่ม pembrolizumab 2 มิลลิกรัม/กิโลกรัม, 25 ราย (14%) ในกลุ่ม pembrolizumab 10 มิลลิกรัม/กิโลกรัม และ 45 ราย (26%) ในกลุ่มเคมีบำบัด เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากการรักษาระดับ grade 3-4 พบบ่อยที่สุดในกลุ่ม pembrolizumab ได้แก่ fatigue (2 ราย [1%] จาก 178 รายที่ได้ 2 มิลลิกรัม/กิโลกรัม และ 1 ราย [< 1%] จาก179 รายที่ได้ 10 มิลลิกรัม/กิโลกรัม เทียบกับ 8 ราย [5%] จาก 171 รายที่ได้เคมีบำบัด) เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากการรักษาระดับ grade 3-4 อื่น ได้แก่ generalised oedema และ myalgia (ใน 2 ราย [1%]) ในกลุ่มที่ได้ pembrolizumab 2 มิลลิกรัม/กิโลกรัม; hypopituitarism, colitis, diarrhoea, decreased appetite, hyponatremia และ pneumonitis (ใน 2 ราย [1%]) ในกลุ่มที่ได้ pembrolizumab 10 มิลลิกรัม/กิโลกรัม และ anaemia (9 ราย [5%]), fatigue (8 ราย [5%]), neutropenia (6 ราย [4%]) และ leucopenia (6 ราย [4%]) ในผู้ที่ได้เคมีบำบัด
ข้อมูลนี้ชี้ให้เห็นบทบาทของ pembrolizumab ในฐานะมาตรฐานใหม่ในการรักษาเมลาโนมาที่ดื้อยา ipilimumab