Wells Score สำหรับหลอดเลือดดำส่วนลึกอุดตันในผู้ป่วยใน
JAMA Intern Med. 2015;175(7):1112-1117.
บทความเรื่อง Performance of Wells Score for Deep Vein Thrombosis in the Inpatient Setting ชี้ว่า คะแนน Wells score มีประสิทธิภาพสำหรับการประเมินความเสี่ยงหลอดเลือดดำส่วนลึกอุดตันในผู้ป่วยนอกแต่ยังไม่มีข้อมูลในผู้ป่วยใน การศึกษานี้จึงได้ประเมินผลการใช้ Wells score สำหรับแบ่งชั้นความเสี่ยงในผู้ป่วยในที่สงสัยว่าเป็นหลอดเลือดดำส่วนลึกอุดตันซึ่งได้ตรวจ duplex ultrasound หลอดเลือดดำที่ขาระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 2012 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 2013 โดยคัดผู้ป่วยที่ตรวจพบหลอดเลือดดำส่วนลึกอุดตันภายใน 3 เดือนก่อนหน้าออกจากการศึกษา และใช้ข้อมูล duplex ultrasound หลอดเลือดดำที่ขาเฉพาะครั้งแรกกรณีผู้ป่วยได้รับการตรวจหลายครั้ง
ผลลัพธ์หลัก ได้แก่ ประสิทธิภาพของ Wells score สำหรับการแบ่งชั้นความเสี่ยงในผู้ป่วยในที่สงสัยว่าเป็นหลอดเลือดดำส่วนลึกอุดตันประเมินจากความต่างด้านอุบัติการณ์ของหลอดเลือดดำส่วนลึกอุดตันในคะแนน Wells score ทั้ง 3 ระดับ (low, moderate และ high pretest probability), ความแม่นยำการจำแนกของคะแนน Wells score จาก area under the receiver operating characteristics curve, อัตราการล้มเหลวของการพยากรณ์ด้วย Wells score และประสิทธิภาพของ Wells score ในการแยกหลอดเลือดดำส่วนลึกอุดตัน
จากผู้ป่วย 1,135 ราย พบว่า 137 ราย (12.1%) มีหลอดเลือดดำอุดตันส่วนลึกที่ต้นขา อุบัติการณ์ของหลอดเลือดดำอุดตันส่วนลึกที่ต้นขาในกลุ่ม low, moderate และ high pretest probability เท่ากับ 5.9% (8 รายจาก 135 ราย), 9.5% (48 รายจาก 506 ราย) และ 16.4% (81 รายจาก 494 ราย) (p < 0.001) และ area under the receiver operating characteristics curve สำหรับความแม่นยำการจำแนกของ Wells score สำหรับความเสี่ยงหลอดเลือดดำอุดตันส่วนลึกที่ต้นขาที่พบจาก duplex ultrasound เท่ากับ 0.60 ขณะที่อัตราการล้มเหลวของคะแนน Wells score ในการระบุผู้ป่วยที่มี low pretest probability เท่ากับ 5.9% (95% CI 3.0%-11.3%) และประสิทธิภาพเท่ากับ 11.9% (95% CI 10.1%-13.9%)
คะแนน Wells score ไม่มีผลดีในการจำแนกความเสี่ยงหลอดเลือดดำอุดตันส่วนลึกในผู้ป่วยใน โดยมีอัตราการล้มเหลวที่สูงกว่าและมีประสิทธิภาพต่ำกว่าในผู้ป่วยในเทียบกับข้อมูลในผู้ป่วยนอก ดังนั้น การแบ่งชั้นความเสี่ยงด้วย Wells score จึงไม่เพียงพอสำหรับการแยกหลอดเลือดดำอุดตันส่วนลึกหรือพิจารณาแนวทางการรักษาสำหรับผู้ป่วยใน