ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการระดับโลก หนุนเลือกโปรตีนคุณภาพให้ลูกน้อยใน 1,000 วันแรก ลดความเสี่ยงโรคอ้วน โรคเรื้อรัง และภูมิแพ้ระยะยาว
สถาบันโภชนาการเนสท์เล่ โดย บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ร่วมกับศูนย์วิจัยโภชนาการเด็ก มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย เผยผลวิจัยโภชนาการในทารกล่าสุดพบว่า การได้รับโปรตีนในปริมาณสูงจากนมผงในช่วงแรกของชีวิตเป็นสาเหตุสำคัญของการมีภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน ลุกลามสู่โรคเรื้อรัง และโรคภูมิแพ้ในระยะยาว
ศ.ปีเตอร์ เดวีส์ จากศูนย์วิจัยโภชนาการเด็ก มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย เปิดเผยว่า ปัจจุบันโรคอ้วนในเด็กกลายเป็นปัญหาที่ไม่อาจมองข้าม เพราะนอกจากจะเป็นอุปสรรคต่อการมีพัฒนาการที่สมวัยแล้ว เมื่อเป็นแล้วก็จะมีความเสี่ยงต่อโรคร้ายแรงอื่น ๆ ตามมา เห็นได้จากอัตราการเพิ่มขึ้นของเด็กที่มีน้ำหนักเกินกว่ามาตรฐานที่มีมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยองค์การอนามัยโลกคาดการณ์ว่า จำนวนของเด็กก่อนวัยเรียนที่มีภาวะแคระแกร็น ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีจำนวนลดลงจาก 26.5 ล้านคน ในปี ค.ศ. 1990 เหลือราว 9.8 ล้านคน ในปี ค.ศ. 2020 ซึ่งสวนทางกับจำนวนของเด็กก่อนวัยเรียนที่มีน้ำหนักเกินและเป็นโรคอ้วน ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นจาก 1.2 ล้านคน เป็น 3.5 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 2.9 เท่า โดยสาเหตุของการเกิดภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนในช่วงวัยนี้เป็นผลมาจากปัจจัยหลายอย่าง ซึ่งการบริโภคโปรตีนในปริมาณสูงจากนมที่ทารกได้รับในช่วงปีแรก ๆ ของชีวิตถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่มีนัยสำคัญปัจจัยหนึ่ง
ทั้งนี้มีผลการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับโภชนาการในนมแม่พบว่า สารอาหารในนมแม่มีการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบตามช่วงเวลาที่ผ่านไป โดยปริมาณโปรตีนคุณภาพในนมแม่ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างร่างกายของลูกน้อยในระยะยาวจะลดลงอย่างรวดเร็วหลังคลอด จาก 3 กรัมต่อ 100 กิโลแคลอรี เหลือประมาณ 1.2 กรัมต่อ 100 กิโลแคลอรี และหลังจากนั้นปริมาณโปรตีนจะค่อนข้างคงที่ จึงมีโอกาสที่ทารกที่ได้รับนมผงจะได้รับโปรตีนในปริมาณที่มากเกินไปอย่างมีนัยสำคัญในช่วงปีแรกของชีวิต ดังนั้น ในบางประเทศ เช่น ประเทศออสเตรเลีย จึงมีการระบุระดับโปรตีนในนมสูตรสำหรับทารกว่าจะต้องมีค่าต่ำสุดและสูงสุดอยู่ระหว่าง 1.9-2.9 กรัมต่อ 100 กิโลแคลอรี เพื่อให้ลูกน้อยได้รับโปรตีนในปริมาณที่ใกล้เคียงนมแม่ และเหมาะสมกับความต้องการตามช่วงวัยมากที่สุด
“การลดความเสี่ยงของการเป็นโรคอ้วนและโรคเรื้อรังอันเนื่องมาจากโรคอ้วนในเด็กสามารถทำได้โดยให้ทารกกินนมแม่ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน โดยพบว่าเด็กที่กินนมแม่จะมีความเสี่ยงในการเป็นโรคอ้วนต่ำกว่าเด็กที่กินนมผงถึงร้อยละ 15-25 ด้วยเหตุนี้จึงมีการวิจัย 'ปริมาณและคุณภาพของโปรตีนที่มีผลต่อการเกิดโรคอ้วนในเด็ก' เพื่อศึกษาถึงความเกี่ยวข้องระหว่างน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นของทารก อันเนื่องมาจากการได้รับโปรตีนในนมผงสำหรับทารกและเด็กเล็กที่มีปริมาณโปรตีนที่แตกต่างกัน เทียบกับเด็กที่ได้รับนมแม่เพียงอย่างเดียวว่า มีอัตราความเสี่ยงในการเป็นโรคอ้วนและโรคเรื้อรังอื่น ๆ ตามมาเมื่อโตขึ้นแตกต่างกันอย่างไร” ศ.ปีเตอร์ กล่าว
จากผลการวิจัยของกลุ่มตัวอย่างในทารกจำนวน 1,678 คน อายุเฉลี่ย 2 สัปดาห์-1 ปีในยุโรป จำนวน 3 กลุ่ม ได้แก่ ทารกที่กินนมแม่เพียงอย่างเดียว ทารกที่ได้รับนมที่มีปริมาณโปรตีนสูงกว่านมแม่ และทารกที่ได้รับนมที่มีการปรับปริมาณโปรตีนต่ำลงให้ใกล้เคียงนมแม่แต่ให้พลังงานเท่ากัน พบว่าเมื่ออายุ 6 ปี เด็กทั้ง 3 กลุ่มมีภาวะการเติบโตด้านความสูงไม่ต่างกัน แต่เด็กกลุ่มที่ได้รับโปรตีนในปริมาณสูงจะมีน้ำหนัก (น้ำหนักต่อความยาว) และดัชนีมวลกาย (Body Mass Index : BMI) สูงกว่าเด็กกลุ่มที่ได้รับปริมาณโปรตีนต่ำกว่า และเด็กกลุ่มที่ได้รับนมแม่อย่างเห็นได้ชัด
ศ.ปีเตอร์ กล่าวเสริมว่า ร่างกายของทารกจะมีการหลั่งอินซูลินเพิ่มมากขึ้นเมื่อได้รับโปรตีนในปริมาณที่สูงเกินความต้องการของร่างกาย ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของระบบเผาผลาญ ส่งผลให้เกิดการสะสมไขมันในร่างกายเพิ่มขึ้น นำไปสู่การเป็นโรคอ้วน โรคหัวใจและหลอดเลือดเมื่อโตขึ้น ซึ่งถือเป็นผลกระทบที่รุนแรงต่อร่างกายในระยะยาว สมมุติฐานนี้แสดงให้เห็นว่า การได้รับโปรตีนในปริมาณมากมีผลต่อการเพิ่มของระดับกรดอะมิโนที่กระตุ้นการหลั่งของอินซูลิน ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ขณะที่ทารกที่ได้รับนมแม่หรือนมผงที่มีปริมาณและคุณภาพโปรตีนใกล้เคียงกับนมแม่จะมีความเสี่ยงน้อยกว่าในการมีน้ำหนักเกิน หรือโรคอ้วนเมื่ออายุ 6 ปี ข้อค้นพบในด้านการได้รับโปรตีนในปริมาณที่เหมาะสมในวัยเด็กจึงเป็นเรื่องที่ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญอยู่ในขณะนี้
ด้าน ศ.พญ.จรุงจิตร์ งามไพบูลย์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนายกสมาคมโรคภูมิแพ้ โรคหืด และวิทยาภูมิคุ้มกันแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นอกจากผลการศึกษาเรื่องปริมาณและคุณภาพของโปรตีนที่มีผลต่อการเกิดโรคอ้วนในเด็กแล้ว ยังมีการวิจัยถึงผลของโปรตีนคุณภาพที่สัมพันธ์กับการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคภูมิแพ้ โดยกระทรวงศึกษาและวิจัย สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (The German Federal Ministration of Education and Research) ที่มุ่งศึกษาถึงผลของการให้นมสูตรลดความเสี่ยงโรคภูมิแพ้ (Hypoallergenic) ที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภูมิแพ้ด้วยโครงสร้างโปรตีนแตกต่างกัน และชนิดของโปรตีนที่มีผลต่อการป้องกันโรคภูมิแพ้ในระยะยาว ซึ่งมีระยะเวลาการติดตามผลนานถึง 15 ปี นับเป็นโครงการวิจัยขนาดใหญ่ที่มุ่งศึกษาการป้องกันโรคภูมิแพ้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีกลุ่มตัวอย่างเข้าร่วมมากที่สุด ซึ่งจากผลการวิจัยในกลุ่มตัวอย่างของทารกแรกเกิดคลอดครบกำหนดจำนวน 2,252 คนที่มีสุขภาพดี และมีความเสี่ยงต่อโรคภูมิแพ้ตั้งแต่แรกเกิด โดยมีพ่อ หรือแม่ หรือพี่ อย่างน้อย 1 คนมีประวัติของโรคภูมิแพ้ ทารกกลุ่มนี้จะถูกแบ่งเป็น 4 กลุ่มเพื่อสุ่มให้ได้รับนมสูตรโปรตีนเวย์ 100% ที่ผ่านการย่อยบางส่วน หรือนมสูตรโปรตีนเคซีนที่ผ่านการย่อยละเอียด หรือนมสูตรโปรตีนเวย์ที่ผ่านการย่อยละเอียด และนมสูตรนมวัวปกติ ในช่วง 4 เดือนแรก ซึ่งผลที่ได้พบว่าเด็กที่ได้รับนมสูตรโปรตีนเวย์ที่ผ่านการย่อยบางส่วนในช่วง 4 เดือนแรก สามารถลดความเสี่ยงของการเกิดผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบลงได้ประมาณ 42% โดยมีการติดตามผลจนถึงอายุ 15 ปี และลดความชุกของการเกิดโรคเยื่อบุจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ลงได้ประมาณ 33% ที่อายุ 11-15 ปี เมื่อเทียบกับเด็กที่ได้รับนมวัวสูตรปกติทั่วไป
“เป็นครั้งแรกในการวิจัยแบบระยะยาวที่พบผลของการได้รับนมสูตรโปรตีนเวย์ 100% ที่ผ่านการย่อยบางส่วน (Partially hydrolyzed whey formula) ต่อการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจ ซึ่งเป็นโรคภูมิแพ้ชนิดที่มักจะเกิดขึ้นในวัยเด็กที่โตขึ้น โดยเกิดภายหลังโรคผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบ โดยผลการศึกษาที่มีการติดตามถึง 15 ปีนี้ เป็นข้อยืนยันถึงผลในการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคภูมิแพ้จากการได้รับโปรตีนคุณภาพในนมสูตรโปรตีนเวย์ 100% ที่ผ่านการย่อยบางส่วน (Partially hydrolyzed whey formula) โดยยังคงมีผลต่อเนื่องไปจนถึงช่วงวัยรุ่นอย่างได้ผล และเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในระดับโลก” ศ.พญ.จรุงจิตร์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม การป้องกันโรคอ้วนและลดความเสี่ยงของการเกิดภูมิแพ้ในเด็กที่มีโอกาสเสี่ยงสูงสามารถทำได้ตั้งแต่วัยทารก โดยการให้ลูกน้อยดื่มนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน เพราะในนมแม่มีสารอาหารที่ร่างกายทารกต้องการอย่างเพียงพอและเหมาะสม โดยเฉพาะโปรตีนซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการทำงานของร่างกายในการซ่อมแซมเซลล์หรือเนื้อเยื่อ และมีผลต่อการเจริญเติบโตในระยะยาว แต่หากแม่มีความจำเป็นที่ไม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้จริง ๆ การเลือกใช้นมที่มีโปรตีนคุณภาพสูงหรือโปรตีนเวย์ 100% ที่ผ่านการย่อยบางส่วนในปริมาณที่เหมาะสมใกล้เคียงกับนมแม่ ก็จะช่วยกระตุ้นระบบการเผาผลาญของร่างกาย ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคอ้วน และโรคร้ายแรงเรื้อรังอื่น ๆ รวมทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดภูมิแพ้ได้อีกด้วย