แนวโน้มโรคเบาหวานทั่วโลกนับจากปี ค.ศ.1980

แนวโน้มโรคเบาหวานทั่วโลกนับจากปี ค.ศ. 1980

Lancet 2016;387(10027):1513-1530.

บทความเรื่อง Worldwide Trends in Diabetes Since 1980: A Pooled Analysis of 751 Population-Based Studies with 4.4 Million Participants รายงานว่า การลดความชุกของโรคเบาหวานปรับตามมาตรฐานอายุในผู้ใหญ่ให้ลงมาที่ระดับของปี ค.ศ. 2010 ภายในปี ค.ศ. 2025 เป็นหนึ่งในเป้าหมายระดับโลกของการรับมือโรคไม่ติดต่อ คณะผู้วิจัยได้ประมาณแนวโน้มของโรคเบาหวานทั่วโลก แนวโน้มที่แต่ละประเทศจะสามารถบรรลุเป้าหมาย และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงด้านความชุกของโรคเบาหวานร่วมกับปัจจัยด้านการเพิ่มขึ้นของประชากร และทิศทางของสังคมผู้สูงอายุต่อจำนวนผู้ใหญ่ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน

คณะผู้วิจัยรวบรวมข้อมูลจากการศึกษาวิจัยในประชากรโดยรวบรวมข้อมูลโรคเบาหวานจากการตรวจตัวบ่งชี้ทางชีวภาพของโรคเบาหวาน คณะผู้วิจัยใช้ตัวแบบ Bayesian hierarchical model ประมาณความชุกของโรคเบาหวานซึ่งประเมินจากค่าน้ำตาลขณะอดอาหารเท่ากับ 7.0 มิลลิโมลต่อลิตรหรือมากกว่า หรือประวัติวินิจฉัยพบโรคเบาหวาน หรือการใช้อินซูลิน หรือยาลดน้ำตาลในเลือดแบบยารับประทานในประเทศและดินแดนรวม 200 แห่งใน 21 ภูมิภาค นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1980-2014 โดยจำแนกผลตามเพศ นอกจากนี้ยังได้คำนวณ posterior probability ของการบรรลุเป้าโรคเบาหวานระดับโลกในกรณีที่แนวโน้มหลังปี ค.ศ. 2000 ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

คณะผู้วิจัยวิเคราะห์ข้อมูลจากการศึกษาวิจัย 751 โครงการ โดยมีข้อมูลของผู้ใหญ่ 4,372,000 คนใน 146 ประเทศจาก 200 ประเทศ ความชุกของโรคเบาหวานปรับตามมาตรฐานอายุทั่วโลกเพิ่มขึ้นจาก 4.3% (95% credible interval อยู่ระหว่าง 2.4-7.0) ในปี ค.ศ. 1980 เป็น 9.0% (7.2-11.1) ในปี ค.ศ. 2014 ในผู้ชาย และจาก 5.0% (2.9-7.9) เป็น 7.9% (6.4-9.7) ในผู้หญิง จำนวนผู้ใหญ่ที่เป็นโรคเบาหวานทั่วโลกเพิ่มขึ้นจาก 108 ล้านคนในปี ค.ศ. 1980 เป็น 422 ล้านคนในปี ค.ศ. 2014 (28.5% จากการเพิ่มขึ้นของความชุก, 39.7% จากการเพิ่มขึ้นของประชากรและผู้สูงอายุ และ 31.8% จากปฏิกิริยาระหว่างปัจจัยทั้ง 2 ตัว) ความชุกของโรคเบาหวานปรับตามมาตรฐานอายุในผู้ใหญ่ในปี ค.ศ. 2014 อยู่ในระดับต่ำสุดในแถบตะวันตกเฉียงเหนือของยุโรป และสูงสุดในภูมิภาคโพลิเนเซียและไมโครเนเซียซึ่งใกล้เคียงระดับ 25% ตามมาด้วยมาลาเนเซีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ ระหว่างปี ค.ศ. 1980-2014 พบการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยด้านความชุกของโรคเบาหวานปรับตามมาตรฐานอายุในผู้หญิงซึ่งอาศัยอยู่ในแผ่นดินใหญ่ของยุโรปแถบตะวันตก แม้อุบัติการณ์อย่างหยาบเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ความชุกปรับตามมาตรฐานอายุในผู้ใหญ่เพิ่มขึ้น 15 percentage points ในผู้ชายและผู้หญิงซึ่งอาศัยอยู่ในแถบโพลิเนเซียและไมโครเนเซีย ในปี ค.ศ. 2014 พบว่าประเทศอเมริกันซามัวมีความชุกของโรคเบาหวานสูงสุด (> 30% ในทั้ง 2 เพศ) นอกจากนี้ความชุกของโรคเบาหวานปรับตามมาตรฐานอายุในผู้ใหญ่สูงกว่า 25% ในบางเกาะในแถบโพลิเนเซียและไมโครเนเซีย หากแนวโน้มหลังปี ค.ศ. 2000 ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงก็จะส่งผลให้ความน่าจะเป็นต่อการบรรลุเป้าหมายหยุดความชุกของโรคเบาหวานไว้ที่ระดับของปี ค.ศ. 2010 ภายในปี ค.ศ. 2025 ต่ำกว่า 1% สำหรับผู้ชาย และ 1% สำหรับผู้หญิง โดยมีเพียง 9 ประเทศสำหรับผู้ชาย และ 29 ประเทศสำหรับผู้หญิง ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในแถบยุโรปตะวันตกที่มีความน่าจะเป็นในการบรรลุตามเป้าหมายระดับโลกถึง 50% หรือมากกว่า

นับจากปี ค.ศ. 1980 เป็นต้นมาพบว่าความชุกของโรคเบาหวานปรับตามมาตรฐานอายุในผู้ใหญ่เพิ่มขึ้นหรืออย่างดีที่สุดคือไม่เปลี่ยนแปลงในบางประเทศ เมื่อรวมกับปัจจัยด้านการเติบโตของประชากรและสัดส่วนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นจึงนำไปสู่ตัวเลขผู้ใหญ่เป็นโรคเบาหวานทั่วโลกที่สูงขึ้นเกือบ 4 เท่า และทำให้ภาระโรคทั้งในแง่ความชุกและจำนวนผู้ป่วยเพิ่มเร็วขึ้นทั้งในกลุ่มประเทศรายได้น้อยและรายได้ปานกลางเมื่อเทียบกับในกลุ่มประเทศรายได้สูง