สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กฯ ผนึกกำลังมูลนิธิวัคซีนฯ สานต่อกิจกรรมสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค “ป้องกันดีกว่าการรักษา”

สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กฯ ผนึกกำลังมูลนิธิวัคซีนฯ สานต่อกิจกรรมสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค “ป้องกันดีกว่าการรักษา”

สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย ร่วมกับมูลนิธิวัคซีนเพื่อประชาชน เดินหน้าสานต่อกิจกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคไอพีดีแก่เด็กกลุ่มเสี่ยงทั่วทุกภูมิภาค ผ่านทางโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อนิวโมคอคคัสเพื่อเด็กกลุ่มเสี่ยง เพื่อรณรงค์สัปดาห์สร้างเสริมภูมิคุ้มกันโลก (World Immunization Week 2016) แก่โรงพยาบาลที่มีแพทย์เฉพาะทางโรคติดเชื้อในเด็กทั่วทุกภูมิภาค โดยในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาได้เดินหน้าขึ้นเหนือร่วมกับสาขาวิชาโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้เรื่องการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันและการป้องกันโรค ณ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ เชื่อมั่นการป้องกันโรคดีกว่าการรักษาโรค

            โดยโครงการนี้ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงสัปดาห์สร้างเสริมภูมิคุ้มกันโลกประจำปี พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมา ซึ่งองค์การอนามัยโลกกำหนดให้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนเมษายน และปีนี้ได้มีการส่งเสริมเรื่องการลดช่องว่างการสร้างภูมิคุ้มกัน หรือ “Close the Immunization Gap” เพื่อสร้างความรู้และความตระหนักให้แก่บุคคลทั่วไป ให้เห็นถึงความสำคัญของการป้องกันโรคด้วยวัคซีน และรณรงค์ให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้รับการปกป้องจากโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน1 ซึ่งจากข้อมูลของศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐอเมริกา แสดงให้เห็นว่าการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีนป้องกันโรคได้รับการยอมรับในระดับสากลให้เป็นเครื่องมือที่ช่วยลดอัตราการเจ็บป่วยทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นลดการเกิดโรคคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก หัด หัดเยอรมัน คางทูม ไวรัสตับอักเสบเอ ไวรัสตับอักเสบบี อีสุกอีใส รวมทั้งโรคไอพีดี2 เป็นต้น

            กิจกรรมสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน “ป้องกันดีกว่าการรักษา” นอกจากจะมีการจัดกิจกรรมเพื่อให้ความรู้แล้ว ยังมีการมอบวัคซีนป้องกันโรคไอพีดีให้แก่เด็กกลุ่มเสี่ยงที่ไม่สามารถเข้าถึงโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่เป็นโรงเรียนแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในการรักษาผู้ป่วยเด็กกลุ่มเสี่ยงที่อยู่ในภูมิภาคนี้ และยังสามารถเข้าถึงเด็กกลุ่มเสี่ยงโรคไอพีดีได้เป็นจำนวนมาก อาทิ เด็กในกลุ่มผู้ป่วยโรคหัวใจ ผู้ป่วยโรคเลือด ผู้ป่วยโรคหอบหืด เป็นต้น

รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ นายกสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ปีที่แล้ว ทางสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทยได้ส่งมอบวัคซีนป้องกันโรคไอพีดีเพื่อเด็กกลุ่มเสี่ยงจำนวน 500 โด๊สแก่โรงพยาบาลหลายแห่ง ซึ่งมีเด็กในกลุ่มเสี่ยงต่อโรคไอพีดีได้รับวัคซีนนี้ไปแล้วมากกว่าหลายร้อยคน ในปีนี้เราได้เพิ่มจำนวนการส่งมอบเป็น 5,000 โด๊ส เพื่อให้สามารถเข้าถึงเด็กที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงและไม่สามารถเข้าถึงการป้องกันได้เพิ่มขึ้นและทั่วถึงยิ่งขึ้น โดยจะครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคในประเทศไทย”

            นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ ประธานมูลนิธิวัคซีนเพื่อประชาชน และอดีตอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า “เราได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการกระจายการส่งมอบวัคซีนให้เข้าถึงเด็กกลุ่มเสี่ยงได้มากที่สุด จึงได้ร่วมมือกับสาขาวิชาโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ซึ่งเป็นโรงเรียนแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ เพื่อจัดกิจกรรมให้ความรู้ การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและการป้องกันโรคให้แก่ผู้ปกครอง เด็ก และบุคคลทั่วไปได้รับประโยชน์”

            รศ.พญ.ดร.เพณณินาท์ โอเบอร์ดอร์เฟอร์ แพทย์หัวหน้าหน่วยโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า “ทางเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย และมูลนิธิวัคซีนเพื่อประชาชน ในการส่งมอบวัคซีนให้แก่เด็กกลุ่มเสี่ยงในภาคเหนือ รวมถึงการจัดกิจกรรมดี ๆ ในการมอบความรู้และความเข้าใจถึงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และการป้องกันโรคให้แก่เด็ก ๆ และผู้ปกครองที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่นี้ ในฐานะที่เป็นโรงเรียนแพทย์ในภูมิภาคนี้และมีแพทย์เฉพาะทางโรคติดเชื้อในเด็กที่สามารถช่วยกันคัดกรองความต้องการวัคซีนของเด็กกลุ่มเสี่ยงนี้ เราจะนำวัคซีนที่ได้รับมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เด็กกลุ่มเสี่ยงนี้ในภูมิภาค”

 

เอกสารอ้างอิง

  1. ข้อมูลจาก World Health Organization. Fact Sheet: Immunization coverage. Retrieved April 19, 2016, from http://www.who.int/mediacentre/factsheets/fs378/en/
  2. ข้อมูลจาก Centers for Disease Control and Prevention (CDC). CDC Pink Book 2015. Appendix E: Data and Statistics: Impact of Vaccines in the 20th and 21st Centuries. Retrieved April 19, 2016, from http://www.cdc.gov/vaccines/pubs/pinkbook/downloads/appendices/appdx-full-e.pdf