รูปแบบอาหารและกระดูกหักในหญิงหมดประจำเดือน

รูปแบบอาหารและกระดูกหักในหญิงหมดประจำเดือน

JAMA Intern Med. 2016;176(5):645-652.

บทความเรื่อง Dietary Patterns and Fractures in Postmenopausal Women: Results From the Women’s Health Initiative รายงานว่า การศึกษาวิจัยเพื่อระบุสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพกระดูกที่ผ่านมาได้ผลลัพธ์ที่ไม่สอดคล้องกัน โดยพบด้วยว่าภาวะขาดสารอาหารไม่ได้จำเพาะเฉพาะสารอาหารตัวใดตัวหนึ่ง และมักเป็นผลสะท้อนมาจากการรับประทานอาหารคุณค่าโภชนาการต่ำ

การศึกษาวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินความสัมพันธ์ระหว่างการเกาะติดดัชนีคุณภาพอาหารซึ่งกำหนดขึ้นตามคำแนะนำโภชนาการหรือรูปแบบการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและกระดูกหักในหญิงวัยหมดประจำเดือน      

หลังการวิจัยวิเคราะห์ข้อมูลระยะยาวจากศูนย์วิจัย 40 แห่งทั่วสหรัฐอเมริกา ซึ่งรวมอยู่ในการศึกษาวิจัย Women’s Health Initiative (WHI) อาสาสมัครใน prospective cohort ประกอบด้วยผู้หญิง 93,676 คน ซึ่งสามารถเข้าร่วมในการศึกษา WHI หากมีอายุ 50-79 ปี การรวบรวมมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1993 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 1998 โดยสิ้นสุดการศึกษาวันที่ 29 สิงหาคม ค.ศ. 2014 ข้อมูลสารอาหารและโภชนาการที่พื้นฐานรวบรวมจากแบบทดสอบความถี่ของอาหาร คุณภาพของอาหาร และการเกาะติดอาหารประเมินจากคะแนนแบบทดสอบ alternate Mediterranean Diet (aMED) ซึ่งวัดการเกาะติดอาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียนทั้ง 9 องค์ประกอบ ดัชนี Healthy Eating Index 2010 (HEI-2010) 12 องค์ประกอบมีคะแนนรวม 100 คะแนน  ดัชนี Alternate Healthy Eating Index 2010 (AHEI-2010) 11 องค์ประกอบ หรือคะแนนดัชนี Dietary Approaches to Stop Hypertension (DASH) 8 องค์ประกอบ ผลลัพธ์หลักได้แก่ อุบัติการณ์กระดูกหักโดยรวมและกระดูกสะโพกหัก ค่า hazard ratios (HRs) ตาม quintiles ของคะแนนดัชนีอาหารประเมินจากการวิเคราะห์ Cox proportional hazards regression analyses

bingöl escort

จากอาสาสมัครทั้งสิ้น 93,676 คน มีอาสาสมัครที่รวมอยู่ในการวิเคราะห์ 90,014 คน (ค่าเฉลี่ยอายุ [SD] เท่ากับ 63.6 [7.4] ปี) ระหว่างมัธยฐานการตรวจติดตาม 15.9 ปี มีรายงานกระดูกสะโพกหัก 2,121 ราย และกระดูกหักโดยรวม 28,718 ราย ผู้หญิงที่มีคะแนนใน quintiles สูงสุด (Q5) ของดัชนี aMED มีความเสี่ยงกระดูกสะโพกหักต่ำกว่า (HR เท่ากับ 0.80 ค่า 95% CI อยู่ระหว่าง 0.66-0.97) โดยมีค่าลดความเสี่ยงสัมบูรณ์เท่ากับ 0.29% และมีจำนวน number needed to treat เท่ากับ 342 (95% CI อยู่ระหว่าง 249-502) จากการศึกษาไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างคะแนน aMED และกระดูกหักโดยรวม (Q5 HR เท่ากับ 1.01 ค่า 95% CI อยู่ระหว่าง 0.95-1.07) คะแนน HEI-2010 หรือ DASH ที่สูงมีแนวโน้มสัมพันธ์แบบกลับกับความเสี่ยงกระดูกสะโพกหักแต่ผลลัพธ์ไม่มีนัยสำคัญ (Q5 HR เท่ากับ 0.87 ค่า 95% CI อยู่ระหว่าง 0.75-1.02 และ Q5 HR เท่ากับ 0.89 ค่า 95% CI อยู่ระหว่าง 0.75-1.06 ตามลำดับ) ขณะที่คะแนน AHEI-2010 ไม่สัมพันธ์กับกระดูกสะโพกหักและกระดูกหักโดยรวม

การรับประทานแบบเมดิเตอร์เรเนียนเป็นประจำสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ต่ำลงต่อกระดูกสะโพกหัก ผลลัพธ์นี้สนับสนุนว่าการรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพมีบทบาทสำคัญต่อการรักษาสุขภาพกระดูกในหญิงวัยหมดประจำเดือน