Rosiglitazone และผลลัพธ์ในผู้ป่วยเบาหวานและหลอดเลือดหัวใจ
Circulation. Published online before print July 15, 2013
บทความเรื่อง Rosiglitazone and Outcomes for Patients with Diabetes and Coronary Artery Disease in the Bypass Angioplasty Revascularization Investigation 2 Diabetes (BARI 2D) Trial รายงานว่า rosiglitazone ฟื้นฟูการควบคุมน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 แต่ยังมีข้อถกเถียงถึงความเสี่ยงต่อหัวใจและหลอดเลือด ขณะที่ผลลัพธ์ของ rosiglitazone ในผู้ป่วย coronary artery disease (CAD) ก็ยังคงไม่มีรายงาน
นักวิจัยศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการใช้ยา rosiglitazone และเหตุการณ์ของโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวานและ CAD โดยศึกษาจากผู้ป่วย 2,368 รายที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และ CAD ในงานวิจัย Bypass Angioplasty Revascularization Investigation 2 Diabetes (BARI 2D) นักวิจัยได้เปรียบเทียบการตายรวม, composite death, กล้ามเนื้อหัวใจตาย สโตรค และการตาย, กล้ามเนื้อหัวใจตาย, สโตรค, congestive heart failure (CHF) และกระดูกหักระหว่างการติดตาม 4.5 ปี ในผู้ป่วยที่รักษาด้วย rosiglitazone เทียบกับผู้ป่วยที่ไม่ได้รับ thiazolidinedione การวิเคราะห์ทำด้วย Cox proportional hazards และ Kaplan-Meier analyses รวมถึงการจับคู่ความน่าจะเป็น อัตราตายหลังจากการปรับพหุตัวแปรในกลุ่มผู้ป่วยที่รักษาด้วย rosiglitazone ใกล้เคียงกัน (HR 0.83; 95% CI, 0.58-1.18) แต่มีอุบัติการณ์ที่ปรับแล้วต่ำกว่าในด้าน composite death, กล้ามเนื้อหัวใจตายและสโตรค (hazard ratio (HR) 0.72; 95% confidence interval (CI), 0.55-0.93) และสโตรค (HR 0.36; 95% CI, 0.16-0.86) โดยมีอุบัติการณ์ของกระดูกหักที่สูงกว่า (HR 1.62; 95% CI, 1.05-2.51) ขณะที่อุบัติการณ์ของกล้ามเนื้อหัวใจตาย (HR 0.77; 95% CI, 0.54-1.10) และ CHF (HR 1.22; 95% CI, 0.84-1.82) ไม่ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ และในผู้ป่วยที่จับคู่ความน่าจะเป็นพบว่าอัตราการเกิดเหตุการณ์ major ischemic cardiovascular events และ CHF ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
ข้อมูลจากการศึกษานี้ไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างการรักษาด้วย rosiglitazone และการเพิ่มขึ้นด้านเหตุการณ์ของ major ischemic cardiovascular ในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และ CAD ในงานวิจัย BARI 2D