แพทย์ผู้เชี่ยวชาญยืนยัน ไม่มีเชื้อไวรัสไข้เลือดออกสายพันธุ์ใหม่ ไทยสูญเงินรักษาโรคไข้เลือดออกเป็นอันดับ 2 ในอาเซียน แนะ 5 มาตรการเร่งป้องกัน

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญยืนยัน ไม่มีเชื้อไวรัสไข้เลือดออกสายพันธุ์ใหม่ ไทยสูญเงินรักษาโรคไข้เลือดออกเป็นอันดับ 2 ในอาเซียน แนะ 5 มาตรการเร่งป้องกัน

            จากผลสำรวจที่ผ่านมาพบว่า ประเทศไทยสูญเงินไปกับภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลโรคไข้เลือดออกสูงมากถึง 290 ล้านบาท เป็นอันดับ 2 จากประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองลงมาจากประเทศอินโดนีเซีย1 ดังนั้น ในโอกาส “วันไข้เลือดออกอาเซียน” หรือ ASEAN Dengue Day สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งเอเชีย นำโดย.พญ.อุษา ทิสยากร นายกสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งเอเชีย สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย นำโดย รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ และ สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย นำโดย.นพ.ธีระพงษ์ ตัณฑวิเชียร จึงร่วมกันรณรงค์ต้านภัยไข้เลือดออก ภายใต้แนวคิดหลัก United Fight Against Dengue ผลักดันให้เกิดการป้องกันไข้เลือดออกด้วยแนวทางที่ถูกต้องและเหมาะสม หวังปลดล็อกคนไทยจากการป่วยและเสียชีวิต บรรลุเป้าหมายตามที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ ร่วมกับชาติอื่น ๆ ในอาเซียนคือ ลดอัตราการเสียชีวิตร้อยละ 50 และลดอัตราการเจ็บป่วยจากโรคร้อยละ 25 ให้ได้ภายในปี พ.ศ. 2563 

 

ไม่มีไวรัสไข้เลือดออกสายพันธุ์ใหม่

.นพ.ธีระพงษ์ กล่าวว่า ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีอัตราผู้ติดเชื้ออยู่ในช่วงอายุ 10-30 ปีเพิ่มมากขึ้น หรือพูดง่าย ๆ ว่า โรคนี้ผู้ใหญ่เป็นกันมากขึ้น โดยเกิดจากเชื้อไวรัสเด็งกีสายพันธุ์ใดสายพันธุ์หนึ่งใน 4 สายพันธุ์ ซึ่งมีการดำรงของโรคไม่ต่างจากเด็ก แต่ความรุนแรงของโรคที่เพิ่มขึ้นอาจมีปัจจัยมาจากการติดเชื้อหลายครั้งมาก่อน แต่อาจไม่แสดงอาการ ผู้ป่วยที่เป็นผู้ใหญ่เองมักไม่รีบพบแพทย์ หายารับประทานเอง หรือแพทย์วินิจฉัยล่าช้าด้วยความเคยชินว่าเป็นโรคของเด็ก รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตและสุขภาพของผู้ป่วย หรือโรคประจำตัวอื่น ๆ เช่น ดื่มเหล้าจนเป็นเหตุที่อาจทำให้เลือดออกมากที่ไตจนเสียชีวิตได้เมื่อเป็นไข้เลือดออก

รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี กล่าวถึงความรุนแรงของไข้เลือดออกนั้นไม่ได้เกิดจากการที่มีไวรัสสายพันธุ์ใหม่แต่อย่างใด จากการศึกษาพบว่าผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสไข้เลือดออกมีร่างกายที่แข็งแรงมาก่อน บางครั้งมีแนวโน้มที่ร่างกายหรือภูมิต้านทานของร่างกายจะตอบโต้หรือมีปฏิกิริยาต่อเชื้อที่บุกรุกรุนแรงเท่านั้นเพื่อทำลายเชื้อไวรัส จนในบางครั้งการตอบสนองรุนแรงจนทำให้มีอาการและแสดงอาการที่รุนแรงได้

โรคไข้เลือดออกเป็นโรคเฉียบพลัน ยังไม่มียารักษา

         รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี กล่าวต่อว่า อัตราการเสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออกของประเทศไทยถือว่าต่ำที่สุดในย่านอาเซียนจากการดูแลรักษาที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ยังคงเป็นโรคที่น่ากังวลและมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกปี เนื่องจากไข้เลือดออกเป็นโรคที่เฉียบพลัน ผู้ป่วยที่เป็นไข้เลือดออกอาจรุนแรงกระทั่งเสียชีวิตได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน บางรายมีแต่อาการไข้ เพลียใน 2 วันแรก วันที่ 3-4 อาการเริ่มทรุดหนัก วันที่ 5-6 อาจจะรุนแรงจนกระทั่งเสียชีวิตได้ ปัจจุบันแม้จะมีโครงการวิจัยยาฆ่าเชื้อไวรัสเด็งกีขึ้นมาแล้ว แต่ก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จในด้านยารักษาจำเพาะ ดังนั้น สิ่งที่จำเป็นต้องทำในวันนี้คือ การป้องกัน ไม่ว่าจะเป็นการทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงหรือการฉีดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกที่ได้รับการจดทะเบียนใน 16 ประเทศแล้ว รวมทั้งในประเทศไทยด้วย โดยมีประสิทธิภาพป้องกันกว่าร้อยละ 65.6 ซึ่งหมายความว่า ในจำนวนคน 100 คนจะช่วยป้องกันโรคได้ 65 คน ส่วนที่อีก 35 คนยังอาจมีการติดเชื้อไข้เลือดออกได้ แต่ความรุนแรงของโรคจะลดลงได้กว่าร้อยละ 90

จำนวนผู้ป่วยไข้เลือดออกเป็นเพียงยอดน้ำแข็ง

.นพ.ธีระพงษ์ กล่าวว่า แม้อัตราการเสียชีวิตในประเทศไทยน้อยกว่าที่อื่น ซึ่งนับว่าเป็นเพราะประเทศไทยมีการวางแนวทางดูแลรักษาและให้การดูแลผู้ป่วยได้ดี แต่ปัญหาการติดเชื้อนั้นใหญ่กว่าตัวเลขที่สะท้อนมาก ในปีหนึ่งประเทศไทยมีคนเป็นไข้เด็งกีและไข้เลือดออกราว 40,000-50,000 คน แต่ในความเป็นจริงพบว่าการติดเชื้อในเด็กและผู้ใหญ่บางรายไม่มีอาการ ดังนั้น ในปีหนึ่ง ๆ อาจมีคนติดเชื้อราว 200,000 คน และในช่วงปีที่มีการระบาดที่มีรายงานมากกว่า 100,000 หรือ 200,000 คน แต่ความจริงแล้วมีคนติดเชื้อนี้อาจใกล้หลักล้าน และเราลืมไปว่ากลุ่มที่ไม่มีอาการก็ถือเป็นกลุ่มที่แพร่เชื้อให้ผู้อื่นด้วย หากคนเหล่านี้ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน การติดเชื้อและการแพร่ระบาดย่อมลดลงได้

นอกจากนี้ รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี ยังกล่าวเสริมด้วยว่า ภาวะโลกร้อน การเพิ่มขึ้นของชุมชนเมือง การเดินทางของประชากร ล้วนมีส่วนทำให้การเกิดโรคมากขึ้น เพราะยุงมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้น โดยเฉพาะในเขตชุมชนเมือง การปราบยุงและการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงถือว่าเป็นการป้องกันที่ได้ผลในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่ 100% เนื่องจากสารเคมีของยาที่พ่นจำเป็นต้องสัมผัสตัวยุง ยุงที่ซ่อนอยู่ในบ้านยังคงมีอยู่

 

5 มาตรการป้องกันไข้เลือดออก ไทยควรเร่งป้องกันอย่างถูกต้อง 

สำหรับ 5 มาตรการในการป้องกันไข้เลือดออก.พญ.อุษา เปิดเผยว่า ทวีปเอเชียมีผู้ป่วยไข้เลือดออกสูงที่สุดในโลกถึงร้อยละ 70 เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายตามที่องค์การอนามัยโลกกำหนด คือลดอัตราการเสียชีวิตร้อยละ 50 และลดอัตราการเจ็บป่วยจากโรคร้อยละ 25 ให้ได้ภายในปี พ.ศ. 2563 ซึ่งเหลือเวลาอีกเพียง 3 ปีเท่านั้น ประเทศไทยควรพิจารณานำข้อควรปฏิบัติที่องค์การอนามัยโลกแนะนำมาปฏิบัติให้ครบทั้ง 5 ประการ ซึ่งได้แก่ 1. การวินิจฉัยโรคให้เร็วและทำการรักษาให้เร็วที่สุด ซึ่งประเทศไทยนับว่าทำได้ดี  2. จัดการระบบการเฝ้าระวังไวรัสไข้เลือดออกซึ่งมีแค่ 4 สายพันธุ์  3. ทุกหน่วยงานต้องทำการควบคุมยุงที่บ้านและชุมชนของตนเอง  4. ถ้ามีวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติ โดยเฉพาะในประเทศที่มีโรคไข้เลือดออกระบาดมาก ควรนำมาใช้ป้องกันโรค และ 5. ต้องมีการเก็บข้อมูลและทำวิจัยต่อไปอีก เพื่อให้ทุกอย่างมีการพัฒนาต่อไป

“ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะลดอัตราการติดเชื้อไข้เลือดออกลงได้ หากทุกคนร่วมมือกันสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคไข้เลือดออกและการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ”

เอกสารอ้างอิง
Shepard DS, Undurraga EA, Halasa YA. Economic and disease burden of dengue in Southeast Asia. PLoS neglected tropical diseases. 2013;7(2):e2055.