Nonsuicidal Self Injury (การทำร้ายตัวเองโดยไม่เจตนาจบชีวิต) ในวัยรุ่นพญ.พัทธ์ธีรา ดิษยวรรณวัฒน์ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น
สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์
วงการแพทย์ ฉบับ 514 กุมภาพันธ์ 2564: mind Health
ความชุก
ความชุกของ Non Suicidal Self Injury นั้นผันแปรไปตามตัวแปรจากการศึกษาต่าง ๆ อย่างเช่น นิยามของพฤติกรรม สถานที่ทำการศึกษา และเครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน อย่างไรก็ตาม ความชุกของ Nonsuicidal self injury นั้นพบได้บ่อยและสูงในตัวอย่างจากสถานพยาบาลมากกว่าในชุมชน จากตัวอย่างประชากรผู้ป่วยจิตเวชวัยรุ่น ความชุกโดยประมาณของ Nonsuicidal Self Injury คือ 50-70 เปอร์เซ็นต์ สำหรับตัวอย่างประชากรในชุมชนจากการศึกษาในเอเชีย,ออสเตรเลีย,ยุโรปและอเมริกาเหนือ ความชุกของ Nonsuicidal Self Injury โดยประมาณคือ 17-18 เปอร์เซ็นต์ โดยความชุกในเพศชายและเพศหญิงยังต่างกันไม่ชัดเจน อย่างไรก็ตามมีหลายการศึกษาพบว่าความชุกในเพศหญิงนั้นมีมากกว่า
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของ Nonsuicidal Self Injury มีตั้งแต่ปัจจัยด้านชีวภาพ ด้านจิตใจ สังคม และวัฒนธรรม ได้แก่ ความไม่สมดุลของสารสื่อประสาทเซโรโทนิน บุคลิกภาพแบบ Impulsive ความคิดที่ไม่ยืดหยุ่นและขาดทักษะสังคม ร่วมกับประสบการณ์ที่ทำให้เกิดแผลในจิตใจทั้งในวัยเด็กและเหตุการณ์ในช่วงนี้
ภาพที่1
ภาพที่2
การมีประสบการณ์ถูกทำร้ายหรือปล่อยปละละเลยในวัยเด็กนั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับ NSSI และยังพบว่า คนที่ทำร้ายตัวเองนั้นให้ประวัติว่ามีเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความเครียดในชีวิตมากกว่าคนที่มีความคิดทำร้ายตัวเองแต่ไม่ได้ลงมือทำ นอกจากนี้ปัญหาความสัมพันธ์ในช่วงวัยรุ่นทั้งกับเพื่อนและผู้ใหญ่นั้นนำไปสู่ความรู้สึกโดดเดี่ยวและเป็นปัจจัยที่ทำนายการฆ่าตัวตายในวัยรุ่นตอนปลายหรือวัยผู้ใหญ่ตอนต้น การประสบกับเหตุการณ์ที่คนในครอบครัว,เพื่อนทำร้ายตนเองหรือฆ่าตัวตายนั้นอาจจะทำให้เกิดพฤติกรรมลอกเลียนแบบสำหรับผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง นอกจากพฤติกรรมทำร้ายตนเองจะเกิดจากการลอกเลียนแบบแล้ว คนที่เจอเหตุการณ์ความเครียดในชีวิตคล้ายกันมักจะใช้เวลาร่วมกัน มีความรู้สึกเข้าใจกัน และการทำร้ายตนเองอาจจะเป็นการตอบสนองต่อเหตุการณ์ความเครียดที่เคยได้รับคล้าย ๆ กันได้ ความรู้สึกติดกับ พ่ายแพ้ ไม่เข้าพวกและมองว่าตนเองเป็นภาระนั้นเป็นปัจจัยที่ทำนายถึงพฤติกรรมทำร้ายตนเอง ความคิดวิพากษ์วิจารณ์ตนเองและ Perfectionism นั้นเกี่ยวกับการทำร้ายตนเองเนื่องจากทำให้มีความคาดหวังที่ไม่สมจริงกับตนเอง และมีมุมมองทางลบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากขึ้น การมองโลกในแง่บวกอาจจะเป็นปัจจัยปกป้องพฤติกรรมทำร้ายตนเอง
นอกจากนี้ความชุกของโรคจิตเวชในวัยรุ่นที่ทำร้ายตนเองยังใกล้กับประชากรผู้ใหญ่อีกด้วย ความชุกของโรคทางจิตเวช ได้แก่ โรคซึมเศร้า วิตกกังวล ติดสารเสพติด สมาธิสั้น โรคพฤติกรรมเกเรก้าวร้าว นั้นมีตั้งแต่ 48-87% นอกจากนี้ยังมีความหุนหันพลันแล่นและพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจจะมีส่วนทำให้เกิดความผิดปกติทางบุคลิกภาพ และเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมทำร้ายตนเองและฆ่าตัวตายในผู้ใหญ่อย่างมาก และยังพบว่าส่วนใหญ่แล้วความผิดปกติทางบุคลิกภาพนั้นมักจะเจอร่วมกับพฤติกรรมทำร้ายตนเองในวัยรุ่น
การประเมิน
การช่วยเหลือเบื้องต้น
การรักษา
จากหลักฐานการวิจัย การรักษาด้วยยาในพฤติกรรมทำร้ายตัวเอง มีการศึกษาน้อย และการประเมินผลของยาต้านเศร้าต่อการป้องกันพฤติกรรมทำร้ายตัวเองยังไม่มีหลักฐานชัดเจน
การรักษาโดยไม่ใช้ยา มีการศึกษาหลากหลายวิธี โดยการรักษาที่มีหลักฐานชัดเจน ได้แก่ Dialectial behavioural therapy (DBT) in borderline personality disorder group แต่ยังเป็นการศึกษาในประชากรผู้ใหญ่
เอกสารอ้างอิง
1.Hawton K.,Saunders K., O’Connor R. Self harm and suicide in adolescents. Lancet 2012; 379: 2373–82
2. Glenn C.,Nock M.(2020) Nonsuicidal self-injury in children and adolescents : General principles of treatment
Retrieved from http://www.uptodate.com
3. Glenn C, Nock M. (2020) Nonsuicidal self-injury in children and adolescents : Assessment
Retrieved from http://www.uptodate.com
izmir escort bayan