ความแตกต่างทางเพศต่ออาการหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันในผู้ป่วยอายุน้อย

JAMA Intern Med. Published online September 16, 2013.

            บทความเรื่อง Sex Differences in Acute Coronary Syndrome Symptom Presentation in Young Patients รายงานว่า ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับผลจากความแตกต่างทางเพศต่ออาการแสดงของกลุ่มภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน (acute coronary syndrome - ACS) ในผู้ป่วยอายุน้อย และปัจจัยที่ทำให้ไม่พบอาการปวดหน้าอกเมื่อเกิดอาการแสดงของ ACS

            นักวิจัยประเมินความแตกต่างทางเพศต่ออาการแสดงของ ACS และประเมินความสัมพันธ์ระหว่างเพศ สังคมประชากร อัตลักษณ์ทางเพศ ปัจจัยทางจิตสังคมและคลินิก ตัวบ่งชี้ความรุนแรงของโรคหลอดเลือดหัวใจ และการไม่พบอาการปวดหน้าอกในผู้ป่วยอายุน้อยที่เป็น ACS โดยศึกษาแบบ prospective cohort study จากผู้ป่วย 1,015 ราย (30% เป็นผู้หญิง) โดยผู้ป่วยมีอายุ 55 ปี หรือน้อยกว่า นอนโรงพยาบาลเนื่องจาก ACS และเข้าร่วมในการศึกษา GENESIS PRAXY (Gender and Sex Determinants of Cardiovascular Disease: From Bench to Beyond Premature Acute Coronary Syndrome) (มกราคม ค.ศ. 2009 – กันยายน ค.ศ. 2012) และติดตามผลลัพธ์ด้วย McSweeney Acute and Prodromal Myocardial Infarction Symptom Survey ระหว่างรักษาในโรงพยาบาล

            มัธยฐานอายุในทั้งสองเพศเท่ากับ 49 ปี โดยพบว่าผู้หญิงมีแนวโน้มสูงกว่าที่จะเป็น non-ST-segment elevation myocardial infarction (37.5 vs 30.7; p = 0.03) และมาโดยไม่มีอาการปวดหน้าอกเทียบกับผู้ชาย (19.0% vs 13.7%; p = 0.03) ผู้ป่วยที่ไม่มีอาการปวดหน้าอกรายงานว่ามีอาการโดยรวมน้อยกว่าและไม่พบรูปแบบชัดเจนของอาการที่ปราศจากอาการปวดหน้าอก ผลลัพธ์จาก multivariate model ชี้ว่าเพศหญิง (odds ratio [OR], 1.95 [95% CI, 1.23-3.11]; p = .005) และหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ (OR, 2.07 [95% CI, 1.20-3.56]; p = 0.009) สัมพันธ์โดยอิสระกับอาการแสดงของ ACS ที่ไม่มีอาการปวดหน้าอก ผู้ป่วยที่ไม่มีอาการปวดหน้าอกไม่ได้มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญกับกลุ่มที่มีอาการปวดหน้าอกในด้านชนิดของ ACS, troponin level elevation หรือการตีบของหลอดเลือดหัวใจ

            อาการปวดหน้าอกเป็นอาการ ACS ที่พบบ่อยที่สุดในทั้งสองเพศ และแม้ผู้หญิงมักมีแนวโน้มสูงกว่าที่จะมาโดยไม่มีอาการปวดหน้าอกเทียบกับผู้ชาย อย่างไรก็ดี การที่ไม่พบอาการปวดหน้าอกก็ไม่สัมพันธ์กับตัวบ่งชี้ความรุนแรงของโรคหลอดเลือดหัวใจ