เปรียบเทียบ Acarbose และ Metformin ในเบาหวานเพิ่งตรวจพบ

The Lancet Diabetes & Endocrinology, Early Online Publication, 18 October 2013.

บทความเรื่อง Acarbose Compared with Metformin as Initial Therapy in Patients with Newly Diagnosed Type 2 Diabetes: An Open-Label, Non-Inferiority Randomised Trial รายงานว่า metformin เป็นยาลดน้ำตาลในเลือดตัวเดียวที่แนะนำให้ใช้แบบ first line สำหรับโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ตามที่มีข้อมูลชัดเจนทั้งด้านประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความคุ้มค่า แต่เนื่องจากข้อมูลการรักษาของ metformin ในประชากรเชื้อสายเอเชียยังคงมีจำกัด นักวิจัยจึงได้ศึกษาประสิทธิภาพของ acarbose ซึ่งเป็น α-glucosidase inhibitor ที่ใช้กันแพร่หลายในจีน โดยเปรียบเทียบกับ metformin ในฐานะทางเลือกการรักษาสำหรับโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งเพิ่งตรวจพบ

            นักวิจัยศึกษาจากผู้ป่วยเพิ่งตรวจพบโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งมีค่า HbA1c เฉลี่ยเท่ากับ 7.5% จากโรงพยาบาล 11 แห่งในประเทศจีน หลังจากผ่านการปรับวิถีชีวิตในระยะ 4 สัปดาห์แล้ว นักวิจัยได้สุ่มให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วย metformin หรือ acarbose อย่างใดอย่างหนึ่งเป็น initial treatment ในระยะเวลา 24 สัปดาห์ ตามด้วยการรักษาระยะต่อเนื่องอีก 24 สัปดาห์ ซึ่งผู้ป่วยได้รับยาเสริมกรณีระดับน้ำตาลยังไม่ลดลงตามเป้า ทั้งนี้ primary endpoint ได้แก่ การติดตามว่า acarbose ไม่ด้อยกว่า metformin สำหรับการลด HbA1c ที่ 24 สัปดาห์ และ 48 สัปดาห์หรือไม่ และ non-inferiority margin เท่ากับ 0.3% โดยคาดหมายว่าไม่มีความแตกต่างด้านการเปลี่ยนแปลงของค่า HbA1c จากเส้นฐานถึง 48 สัปดาห์ และวิเคราะห์จาก modified intention-to-treat population

            มีผู้ป่วยเริ่มการรักษาด้วยยาที่ใช้วิจัย 784 รายจากจำนวนผู้ป่วย 788 ราย การลดลงของค่า HbA1c ที่ 24 สัปดาห์ เท่ากับ -1.17% ในกลุ่ม acarbose และ -1.19% ในกลุ่ม metformin ที่ 48 สัปดาห์ พบว่าการลดลงของค่า HbA1c เท่ากับ -1.11% (acarbose) และ -1.12% (metformin) โดยมีความแตกต่างเท่ากับ 0.01% (95% CI -0.12 ถึง 0.14, p = 0.8999) ผู้ป่วย 6 ราย (2%) ในกลุ่มacarbose และ 7 ราย (2%) ในกลุ่ม metformin เกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง โดย 2 ราย (1%) และ 4 ราย (1%) เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ

            ข้อมูลจากการศึกษานี้เป็นหลักฐานว่า acarbose ใกล้เคียงกับ metformin ในแง่ประสิทธิภาพ และเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ป่วยชาวจีนที่เพิ่งตรวจพบโรคเบาหวานชนิดที่ 2