ผลของ Dutasteride ต่อ Benign Prostatic Hyperplasia
ในชายต่อมลูกหมากโตที่ไม่มีอาการ
BMJ 2013;346:f2109
บทความเรื่อง Effect of Dutasteride on Clinical Progression of Benign Prostatic Hyperplasia in Asymptomatic Men with Enlarged Prostate: A Post Hoc Analysis of the REDUCE Study รายงานผลจาก post hoc analysis ของการศึกษา Dutasteride of Prostate Cancer Events (REDUCE) เพื่อประเมินบทบาทของ dutasteride ในการป้องกันการดำเนินโรคของ benign prostatic hyperplasia ในชายต่อมลูกหมากโตที่ไม่มีอาการ
ผู้เข้าร่วมวิจัยเป็นชาย 1,617 ราย ซึ่งสุ่มให้ได้รับ dutasteride หรือยาหลอก โดยมีขนาดต่อมลูกหมาก > 40 มิลลิลิตร และมี International Prostate Symptom Score (IPSS) ที่เส้นฐาน < 8 นักวิจัยได้คัดผู้ชายที่ได้รับยาสำหรับ benign prostatic hyperplasia ออกจากการศึกษา และการแทรกแซงทำโดยให้ยาหลอก หรือ dutasteride 0.5 มิลลิกรัมต่อวัน
มาตรวัดผลลัพธ์เปรียบเทียบจากความเสี่ยงการดำเนินโรคของ benign prostatic hyperplasia ที่ 4 ปี (ประเมินจากคะแนนที่เพิ่มขึ้น ≥ 4 จุดจาก IPSS, ปัสสาวะคั่งเฉียบพลัน, ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ หรือการผ่าตัดเนื่องจาก benign prostatic hyperplasia)
ผู้ป่วย 825 ราย ได้รับยาหลอก และ 792 ราย ได้รับ dutasteride มีผู้ป่วยที่เกิดการดำเนินโรคของ benign prostatic hyperplasia 464 ราย (29%) ซึ่ง 297 ราย (36%) ได้รับยาหลอก และ 167 ราย (21%) ได้รับ dutasteride (p < 0.001) ค่า relative risk reduction เท่ากับ 41% และ absolute risk reduction เท่ากับ 15% และมี number needed to treat (NNT) เท่ากับ 7 ในกลุ่มผู้ชายที่เป็นปัสสาวะคั่งเฉียบพลันและได้รับการผ่าตัดเนื่องจาก benign prostatic hyperplasia พบว่า absolute risk reduction สำหรับ dutasteride เท่ากับ 6.0% และ 3.8% ข้อมูลจาก multivariable regression analysis ที่ปรับตามตัวแปรร่วมชี้ว่า dutasteride สามารถลดการดำเนินโรคของ benign prostatic hyperplasia ได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยมี odds ratio เท่ากับ 0.47 (95% CI 0.37-0.59, p < 0.001) การวิเคราะห์ระยะเวลาจนถึงเกิดเหตุการณ์ครั้งแรกได้ hazard ratio เท่ากับ 0.673 (p < 0.001) สำหรับผู้ที่ได้ dutasteride โดยพบผลข้างเคียงต่อสมรรถภาพทางเพศบ่อยที่สุดและใกล้เคียงกับข้อมูลที่มีรายงานก่อนหน้านี้
การศึกษานี้นับเป็นชิ้นแรกที่ศึกษาประโยชน์ของการรักษาผู้ชายที่เป็นต่อมลูกหมากโตซึ่งไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย โดยพบว่า dutasteride สามารถลดอุบัติการณ์ด้านการดำเนินโรคของ benign prostatic hyperplasia ได้อย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ดี จำเป็นที่จะต้องมีการศึกษาแบบ prospective study เพิ่มเติมเพื่อที่จะพิสูจน์ความน่าเชื่อถือของผลลัพธ์ดังกล่าว