ความเสี่ยงสูงขึ้นต่อ Acute MI และสโตรค ระหว่าง Hemorrhagic Fever ร่วมกับ Renal Syndrome

ความเสี่ยงสูงขึ้นต่อ Acute MI และสโตรค
ระหว่าง Hemorrhagic Fever ร่วมกับ Renal Syndrome

CIRCULATIONAHA.113.001870

บทความเรื่อง Increased Risk of Acute Myocardial Infarction and Stroke During Hemorrhagic Fever with Renal Syndrome: A Self-Controlled Case Series Study รายงานว่า การเสียชีวิตเนื่องจากโรคหัวใจและหลอดเลือดพบได้บ่อยในผู้ป่วย hemorrhagic fever with renal syndrome (HFRS) อันเป็นผลจาก hantavirus อย่างไรก็ดี ยังไม่มีข้อมูลว่า HFRS เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดเหตุการณ์ของโรคหัวใจและหลอดเลือดเฉียบพลัน กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน และสโตรค

นักวิจัยเชื่อมโยงจำนวนผู้ป่วยจากฐานข้อมูลผู้ป่วย HFRS ของสวีเดน (ค.ศ. 1997-2012; n = 6,643) กับทะเบียน National Patient Register ระหว่างปี ค.ศ. 1987-2011 นักวิจัยใช้วิธี self-controlled case series method เทียบ incidence rate ratio (IRR) ของกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน/สโตรคใน 21 วันหลังจาก HFRS กับระยะควบคุมซึ่งตัด fatal AMI/stroke (analysis 1) หรือรวม fatal AMI/stroke (analysis 2) ค่า IRRs (95% confidence intervals) สำหรับ analysis 1 และ 2 สำหรับ AMI events ทั้งหมดเท่ากับ 5.53 (2.6-11.8) และ 6.02 (2.95-12.3) และสำหรับ AMI events ครั้งแรกเท่ากับ 3.53 (1.25-9.96) และ 4.64 (1.83-11.77) ค่า IRRs สำหรับ analysis 1 และ 2 สำหรับ stroke events ทั้งหมดเท่ากับ 12.93 (5.62-29.74) และ 15.16 (7.21-31.87) และสำหรับสโตรคทั้งหมดเท่ากับ 14.54 (5.87-36.04) และ 17.09 (7.49-38.96) โดย stroke events ส่วนใหญ่เกิดในช่วงสัปดาห์แรกหลัง HFRS จากกการศึกษาไม่พบผลกระทบของฤดูกาล และส่วนใหญ่ไม่พบว่าเพศหรืออายุมีผลต่อความสัมพันธ์ที่พบ

ความเสี่ยงกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญภายในระยะสั้นหลังจาก HFRS ดังนั้น จึงควรติดตามผู้ป่วย HFRS อย่างใกล้ชิดในช่วงระยะเฉียบพลันเพื่อดูอาการของกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันหรือสโตรคได้อย่างทันท่วงที