เป้าหมายในปี พ.ศ. 2557 ของผม

เป้าหมายในปี พ.. 2557 ของผม

สำหรับปี พ.ศ. 2557 ผมมีเป้าหมายไว้ว่าผมอยากลดน้ำหนักตัวให้น้อยกว่านี้ ปัจจุบันผมมีน้ำหนักตัว 80 กิโลกรัม สูง 1.78 เมตร ฉะนั้นดัชนีมวลกาย หรือ Body Mass Index (BMI คือน้ำหนักตัวเป็นกิโลกรัมหารด้วยความสูงเป็นเมตรยกกำลังสอง) จึงอยู่ที่ 25.25 ซึ่งสูงไปหน่อยสำหรับคนเอเชีย ค่าปกติควรอยู่ระหว่าง 18.5-23 ตั้งแต่ 23.1-24.9 จะถือว่าน้ำหนักเกิน 25 ขึ้นไปจึงจะถือว่าอ้วน BMI ของผมเองจึงอยู่ในเกณฑ์อ้วน พุงชาย, หญิงควรเล็กกว่า 90, 80 เซนติเมตร ตามลำดับ พุงผมอยู่ที่ 96 เซนติเมตร จึงถือได้ว่าเกินไปทั้ง 2 เกณฑ์

ถ้าประชาชนชาวไทยเพียงแต่ดูแล BMI และพุงให้อยู่ในเกณฑ์ด้วยการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ (คือ เดินเร็ว ๆ วิ่ง ว่ายน้ำ ถีบจักรยานอยู่กับที่ เต้นแอโรบิก ครั้งละ 30 นาที ทุกวัน หรืออย่างน้อย 3 ครั้ง/สัปดาห์) และควบคุมอาหารด้วยการรับประทานอาหารหนักไปทางพืช ผัก ผลไม้ ปลา เป็นหลัก หลีกเลี่ยงน้ำหวาน ของหวาน น้ำตาล ความเค็ม มันสัตว์ หนังสัตว์ หรือเนื้อสัตว์ (ยกเว้นปลา) เครื่องใน แป้ง เช่น ข้าว ขนมปัง มันฝรั่ง ก็จะเป็นการลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่าง ๆ มากมาย เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ สมอง (หรือทั่วร่างกาย) ตีบและอุดตัน โรคเบาหวาน โรคอ้วน และโรคอื่น ๆ ที่ตามมา โรคไขมันในเลือดสูง โรคมะเร็งของ 7 อวัยวะ เช่น เต้านม ลำไส้ใหญ่ ตับ ฯลฯ ที่เกิดจากความอ้วน

แต่ถ้าจะให้ BMI และพุงผมอยู่ในเกณฑ์ ผมจะต้องลดน้ำหนักผมลงให้ถึง 72.8732 กิโลกรัม! จาก 80 กิโลกรัม ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ ความจริงค่า BMI ที่ปกติของชาวตะวันตกอยู่ที่ 18.5-24.9 ระหว่าง 25-29.9 จึงจะเรียกว่าน้ำหนักเกิน 30 ขึ้นไปจึงจะเรียกว่าอ้วน ผมอาจ (มองแบบเข้าข้างตัวเอง) มีรูปร่างสูงใหญ่แบบฝรั่งก็ได้ ถ้าคิดตามแบบฝรั่งผมจะมีน้ำหนักเกินเพียงเล็กน้อย ยังไม่อ้วนตามเกณฑ์ฝรั่ง ด้วยเหตุนี้เองผมจึงตั้งเป้าหมายว่าปีนี้ผมจะลดน้ำหนักตัวลงเพียง 3 กิโลกรัม ซึ่งฟังดูไม่มาก ไม่น่ายาก แต่ผมเชื่อว่ามันเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก เพราะขนาดผมเดินวันละ 1 ชั่วโมงเกือบทุกวัน ไม่ดื่มน้ำหวาน ไม่ชอบของหวาน (แต่หมูหัน เป็ดปักกิ่ง ก็ชอบครับ) ผมยังลดน้ำหนักให้ต่ำกว่า 80 กิโลกรัมไม่ได้มาหลายปีแล้ว

นอกจากจะพยายามลดน้ำหนักตัวเองแล้ว ผมอยากพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นกว่านี้ กล่าวคือผมเป็นคนทำอะไรเร็ว ใจร้อน ใครถามอะไรจะตอบเร็วมาก จนบางครั้งเสียงดังมาก ห้วน คล้าย ๆ ผมเป็นคนดุ (ภรรยาบอกอย่างนั้น ถ้าไม่เชื่อ (ฟัง) ภรรยาแล้วจะเชื่อใคร) ทั้ง ๆ ที่ปกติไม่ได้เป็นคนอย่างนั้นเลย ปีนี้ผมจะพยายามทำให้ใจเย็นมากขึ้น อดทนต่อการช้า (ทำงาน) ของผู้อื่น จะพูดเสียงค่อยลง ฯลฯ และอีกอย่างหนึ่งคือ ผมเป็นคนชอบเอาใจคน พยายามคิดทำทุก ๆ อย่างให้ภรรยา ลูก หลาน ๆ รวมทั้งลูกศิษย์ ลูกน้อง ทั้งในเรื่องเล็กน้อย รวมทั้งผมเป็นนักวางแผน ตลอด จนบางครั้งดูว่าจู้จี้จุกจิกมากไป เพราะย้ำแล้วย้ำอีก ทั้ง ๆ ที่มีความปรารถนาดี (มากเกินไป) แต่การที่ผมพูดเร็ว ตอบเร็ว ดัง ห้วน ทำให้ความปรารถนาดีของผมหรือการกระทำความดีของผมเสียหรือลดลงไปอย่างมาก ฉะนั้นต้องปรับปรุง รวมทั้งผมเป็นคนแคร์ความรู้สึกของคนอื่นมากไป อยากให้ทุก ๆ คนที่ผมรู้จัก รัก มีความสุขและได้รับความสะดวกสบาย รวมทั้งไม่ชอบคนที่ขี้เกียจที่มาทำงานสาย ไม่ชอบคนที่ไม่ตรงเวลาเป็นอย่างมาก ซึ่งผมคงต้องลดมาตรฐานลงบ้าง

จากการที่ผมเป็นแพทย์ ผมเห็นคนเสียชีวิต เจ็บป่วยอย่างง่ายดาย ทั้ง ๆ ที่ไม่มีอาการมาก่อน และพบว่าญาติ เพื่อนคนที่อยู่ข้างหลังเสียใจมาก และมักบ่นว่ายังไม่ได้ตอบแทนความรัก ความดีของบุคคลคนนั้นเลย ทำให้ผมคิดว่าถ้าเรารักใคร ปรารถนาดีต่อใคร อย่าเก็บไว้ในใจจนสายไป จนผู้ที่เรารัก เห็นคุณค่า ตายไปแล้ว โดยที่เราไม่ได้แสดงออกให้เขาเห็นว่าเรารัก เห็นคุณค่าเขาอย่างแท้จริง ตอนที่เขายังอยู่ ผมจึงอยากให้พวกเราทุก ๆ คนพยายามทำตัวดีต่อคนที่เรารักจริง ๆ ตลอดเวลา ทั้งทางใจ ทางกาย วาจา และการแสดงออกทุก ๆ ทาง เช่น ต่อสามี ภรรยา ลูกหลาน พ่อแม่ หรือแม้แต่ปู่ ย่า ตา ยาย ฯลฯ

และผมต้องพยายามจัดลำดับความสำคัญของชีวิตให้ถูกต้อง ทำอะไรที่สำคัญก่อน ไม่ไปเสียเวลามากกับสิ่งที่ไร้สาระ เช่น การเล่นไลน์ ฯลฯ ผมอยากอ่านหนังสืออ่านเล่นที่ดี ๆ ให้มากยิ่งขึ้น เขียนหนังสือหรือรวบรวมให้เป็นเล่ม เพราะปัจจุบันนี้ผมเขียนในหนังสือพิมพ์แนวหน้าและวารสารวงการแพทย์ (สำหรับวารสารวงการแพทย์เขียนมานานมาก เป็นสิบ ๆ ปี) ถ้าจะรวบรวมเป็นเล่มได้ก็จะดี อยากจะเขียนหนังสือการดูแลสุขภาพป้องกันโรค (เล่มใหม่) ให้ทันสมัย และรวมหัวข้อที่สำคัญเพิ่มเข้าไป รวมทั้ง Art of Living (เปลี่ยนจากเดิม Art of Learning) เพื่อเป็นความรู้แก่ประชาชนที่ไม่ใช่ลูกศิษย์ผม เพราะคิดว่าจะมีประโยชน์มาก

ที่ยากที่สุดคงจะเป็นการลดน้ำหนักตัว!