Metformin ในผู้ป่วย STEMI ที่ไม่เป็นเบาหวาน

Metformin ในผู้ป่วย STEMI ที่ไม่เป็นเบาหวาน

JAMA. 2014;311(15):1526-1535.

บทความเรื่อง Effect of Metformin on Left Ventricular Function after Acute Myocardial Infarction in Patients without Diabetes: The GIPS-III Randomized Clinical Trial รายงานว่า การรักษาด้วย metformin สัมพันธ์กับผลลัพธ์ที่ดีขึ้นหลังกล้ามเนื้อหัวใจตายในผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยมีการศึกษาในสัตว์ทดลองชี้ว่า metformin รักษาการทำงานของหัวใจห้องล่างซ้าย

นักวิจัยศึกษาผลของการรักษาด้วย metformin ต่อการรักษาการทำงานของหัวใจห้องล่างซ้ายในผู้ป่วยที่ไม่เป็นเบาหวานและมาด้วย with ST-segment elevation myocardial infarction (STEMI) ในผู้ป่วย 380 รายที่ทำ percutaneous coronary intervention (PCI) เนื่องจาก STEMI ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2011 ถึงวันที่ 26 พฤษภาคม ค.ศ. 2013

การแทรกแซงประกอบด้วย metformin hydrochloride (500 mg) (n = 191) หรือยาหลอก (n = 189) วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 4 เดือน โดย primary efficacy measure ได้แก่ left ventricular ejection fraction (LVEF) หลัง 4 เดือนประเมินจาก MRI และ secondary efficacy measure ได้แก่ ระดับ N-terminal pro-brain natriuretic peptide (NT-proBNP) หลัง 4 เดือน อุบัติการณ์ของ major adverse cardiac events (MACE หรือ combined endpoint ของการตาย การตีบซ้ำของหลอดเลือดหัวใจ หรือ target-lesion revascularization) ได้ติดตามจนถึง 4 เดือนในฐานะ secondary efficacy measure

ที่ 4 เดือนพบว่าผู้ป่วยทุกรายยังคงมีชีวิตอยู่และสามารถติดตามได้ ค่า LVEF เท่ากับ 53.1% (95% CI 51.6-54.6%) ในกลุ่ม metformin (n = 135) เทียบกับ 54.8% (95% CI 53.5-56.1%) (p = 0.10) ในกลุ่มยาหลอก (n = 136) ระดับ NT-proBNP เท่ากับ 167 ng/L ในกลุ่ม metformin (interquartile range [IQR] 65-393 ng/L) และ 167 ng/L ในกลุ่มยาหลอก (IQR 74-383 ng/L) (p = 0.66) โดยพบ MACE ในผู้ป่วย 6 ราย (3.1%) ในกลุ่ม metformin และใน 2 ราย (1.1%) ในกลุ่มยาหลอก (p = 0.16) ระดับ creatinine (79 µmol/L [IQR 70-87 µmol/L] vs 79 µmol/L [IQR 72-89 µmol/L], p = 0.61) และ glycated hemoglobin (5.9% [IQR 5.6-6.1%] vs 5.9% [IQR 5.7-6.1%], p = 0.15) ไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างทั้งสองกลุ่ม และไม่พบการเกิด lactic acidosis

ข้อมูลจากการศึกษาในผู้ป่วยที่ไม่เป็นเบาหวานและมาด้วย STEMI และทำ PCI พบว่า การใช้ยา metformin ไม่ส่งผลให้ LVEF ดีขึ้นหลัง 4 เดือนเทียบกับยาหลอก ซึ่งข้อมูลนี้ไม่สนับสนุนการใช้ยา metformin ในผู้ป่วยกลุ่มนี้