วิตามินดีและความเสี่ยงการตายรายสาเหตุ

วิตามินดีและความเสี่ยงการตายรายสาเหตุ

BMJ 2014;348:g1903.

บทความเรื่อง Vitamin D and Risk of Cause Specific Death: Systematic Review and Meta-Analysis of Observational Cohort and Randomised Intervention Studies รายงานผลจากการศึกษาแบบ systematic review และ meta-analysis จากงานวิจัยแบบ observational studies และ randomised controlled trials เพื่อประเมินผลของ biomarker และการเสริมวิตามินดีต่อการตายจากโรคหัวใจและหลอดเลือด มะเร็ง หรือโรคอื่น ๆ

นักวิจัยรวบรวมข้อมูลจาก Medline, Embase, Cochrane Library และบรรณานุกรมงานวิจัยที่เกี่ยวข้องจนถึงเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2013 รวมถึงติดต่อกับผู้นิพนธ์ งานวิจัยที่นำมาศึกษาเป็น observational cohort studies และ randomised controlled trials ซึ่งศึกษาในผู้ใหญ่และรายงานความสัมพันธ์ระหว่างวิตามินดี (วัดจากระดับ 25-hydroxyvitamin D ในเลือดหรือการเสริมวิตามินดี) และการตายรายสาเหตุ ค่า specific relative risks จากงานวิจัย cohort studies 73 การศึกษา (ผู้เข้าร่วมวิจัย 849,412 ราย) และงานวิจัยแบบ randomised controlled trials 22 การศึกษา (เสริมวิตามินดีอย่างเดียวเทียบกับยาหลอกหรือไม่ให้การรักษา รวมผู้เข้าร่วมวิจัย 30,716 ราย) ได้นำมาวิเคราะห์ใน meta-analysis ด้วยตัวแบบ random effects models และจัดกลุ่มตามลักษณะของงานวิจัยและประชากร

จากงานวิจัยแบบ observational studies ซึ่งเปรียบเทียบ 25-hydroxyvitamin D ระหว่างระดับต่ำสุดและสูงสุดพบว่า relative risks รวมเท่ากับ 1.35 (95% CI 1.13-1.61) สำหรับการตายจากโรคหัวใจและหลอดเลือด, 1.14 (1.01-1.29) สำหรับการตายจากโรคมะเร็ง, 1.30 (1.07-1.59) สำหรับการตายที่ไม่เป็นผลจากโรคหลอดเลือดหรือมะเร็ง และ 1.35 (1.22-1.49) สำหรับการตายจากทุกสาเหตุ การวิเคราะห์กลุ่มย่อยในงานวิจัยแบบ observational studies ชี้ว่า ความเสี่ยงการตายสูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญในงานวิจัยที่เสริมวิตามินดีที่พื้นฐานในระดับต่ำกว่า จากงานวิจัยแบบ randomised controlled trials พบว่า ค่า relative สำหรับการตายทุกสาเหตุเท่ากับ 0.89 (0.80-0.99) สำหรับการเสริมวิตามินดี 3 และ 1.04 (0.97-1.11) สำหรับการเสริมวิตามินดี 2 โดยผลจากการเสริมวิตามินดี 3 ยังคงเดิมภายหลังการจัดกลุ่ม อย่างไรก็ดี สำหรับการเสริมวิตามินดี 2 พบว่า มีความเสี่ยงการตายสูงขึ้นในงานวิจัยแบบ observed in studies ซึ่งเสริมด้วยขนาดที่ต่ำกว่าและในระยะเวลาที่สั้นกว่า

หลักฐานจากงานวิจัยแบบ observational studies ชี้ให้เห็นความสัมพันธ์แบบกลับระหว่างระดับ 25-hydroxyvitamin D และความเสี่ยงการตายเนื่องจากโรคหัวใจและหลอดเลือด มะเร็ง และสาเหตุอื่น และการเสริมวิตามินดี 3 ลดอัตราตายรวมได้อย่างมีนัยสำคัญในผู้ใหญ่ที่อายุมากกว่า อย่างไรก็ดี จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อกำหนดขนาดและระยะที่เหมาะสม และศึกษาว่าวิตามินดี 3 และวิตามินดี 2 มีผลต่อความเสี่ยงการตายต่างกันหรือไม่