ผู้สูงอายุไทยกว่าครึ่งมีฟันเหลือไม่เพียงพอต่อการบดเคี้ยวอาหาร

ผู้สูงอายุไทยกว่าครึ่งมีฟันเหลือไม่เพียงพอต่อการบดเคี้ยวอาหาร

ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากการสำรวจสภาวะทันตสุขภาพแห่งชาติในกลุ่มผู้สูงอายุโดยสำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย ในปี พ.ศ. 2555 พบว่าคนไทยอายุ 60-80 ปี ร้อยละ 57 มีฟันแท้ 20 ซี่ขึ้นไป เพียงพอต่อการใช้งาน แต่ยังมีร้อยละ 7.2 ที่สูญเสียฟันทั้งปาก และร้อยละ 2.5 จำเป็นต้องใส่ฟันเทียมทั้งปาก ซึ่งมีจำนวนสูงถึง 245,000 คน โดยผลจากการสูญเสียฟันส่งผลต่อการบดเคี้ยวอาหาร ทำให้ได้รับสารอาหารไม่ครบทั้ง 5 หมู่ ทำให้ร่างกายอ่อนแอ เจ็บป่วยได้ง่าย และการปล่อยให้ช่องปากไม่สะอาดจะส่งผลให้เกิดโรคในช่องปาก เช่น รากฟันผุและโรคเหงือกรุนแรงขึ้น นอกจากนี้จากการศึกษายังพบว่าผู้ป่วยโรคปริทันต์รุนแรงจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจถึง 2 เท่า และเชื้อโรคในช่องปากสามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ ทำให้เกิดการติดเชื้อ เช่น ลิ้นหัวใจอักเสบ เป็นต้น การดูแลสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุที่เหมาะสมคือ ทำความสะอาดช่องปากด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งการแปรงฟันตามสูตร 222 ของกรมอนามัยคือ แปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์นานครั้งละ 2 นาที วันละ 2 ครั้ง หลังแปรงฟันควรงดขนมหวาน น้ำอัดลม 2 ชั่วโมง รวมทั้งยังต้องทำความสะอาดบริเวณซอกฟันด้วยไหมขัดฟัน ถ้ามีช่องว่างระหว่างซี่ฟันควรใช้แปรงซอกฟันทำความสะอาดเสริมด้วย ส่วนผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ควรมีผู้ดูแลทำความสะอาดช่องปากให้เป็นประจำเช่นเดียวกัน