เครื่องดื่มคลอโรฟิลล์ใช้กับเด็กทารกได้หรือไม่
จากข่าวดังในแวดวง online เกี่ยวกับการที่มีการโฆษณาคลอโรฟิลล์โดยมีการลงรูปแม่และเด็กทารก โดยระบุว่าแม่ดื่มตั้งแต่ตั้งครรภ์จนลูกคลอดออกมาน้ำหนักเกือบ 5กิโลกรัม แข็งแรงมาก และทารกก็ดื่มต่อ ซึ่งเป็นการโฆษณาเครื่องดื่มคลอโรฟิลล์ที่ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันจนกุมารแพทย์ต้องออกมาชี้แจงให้เห็นว่า การดื่มเครื่องดื่มคลอโรฟิลล์นั้นไม่ได้ช่วยให้เป็นดังนั้น และยังอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อทารกด้วยซ้ำไป กุมารแพทย์ยังกล่าวว่า ทารกแรกเกิดหนัก 5 กิโลกรัมไม่ใช่เด็กปกติ ไม่ใช่สิ่งที่น่าชื่นชมหรือเลียนแบบ อาจเกิดจากการที่คุณแม่เป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ หรือเด็กอาจเป็นโรคผิดปกติบางอย่างที่ทำให้มีปัญหาน้ำตาลในเลือดต่ำ มีผลกับสมองตามมา หากไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง และการให้ทารกดื่มน้ำอื่น ๆ ที่ไม่ใช่นมแม่ หรือนมผงสำหรับทารกที่ได้รับการเตรียมอย่างถูกสัดส่วนและสะอาดจะเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ เช่น เกิดภาวะน้ำเกินหรือน้ำเป็นพิษจนสมองบวม ท้องร่วงจากติดเชื้อ เกิดอาการแพ้รุนแรงได้
เครื่องดื่มคลอโรฟิลล์นั้นเป็นอาหารเสริมที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน ผู้ขายหลายรายอวดอ้างสรรพคุณประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพต่าง ๆ มากมาย จนดูเหมือนจะเป็นสิ่งวิเศษที่ต้องรับประทานเพื่อชีวิตและสุขภาพ อันที่จริงแล้วน้ำคลอโรฟิลล์ดีจริงอย่างที่กล่าวถึงจริงหรือไม่ และมีอันตรายต่อเด็กอย่างไร
มนุษย์เราเริ่มใช้คลอโรฟิลล์ในการแพทย์เมื่อปี ค.ศ. 1940(2) พร้อม ๆ กับที่ใช้เป็นยาสีฟัน ยาดับกลิ่นปาก และมีการใช้คลอโรฟิลล์ในการบำบัดโรค เช่น โรคทางเดินอาหาร ลำไส้ใหญ่ โรคผิวหนังชนิดต่าง ๆ โดยเฉพาะแผลเรื้อรัง เพื่อช่วยสมานแผล กล่าวคือ คลอโรฟิลล์สามารถใช้รักษาแผล เรียกเนื้อให้แผลหายเร็วกว่าปกติ มีบทบาทเป็นยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ทั้งยังดับกลิ่นเหม็นของแผลและสามารถทำความสะอาดแผลให้สะอาดได้ดีกว่าสารตัวอื่น
คลอโรฟิลล์เป็นกลุ่มของรงควัตถุที่มีสีเขียวที่พบในพืชทั่วไป มีหน้าที่จับพลังงานแสง (primary light-accepting pigments) เพื่อใช้ในกระบวนการสังเคราะห์แสงซึ่งเกิดขึ้นใน chloroplasts คลอโรฟิลล์แบ่งออกเป็น 4 ชนิด(3) คือ
1. คลอโรฟิลล์ a มีสีเขียวแกมน้ำเงิน พบในพืชชั้นสูงทุกชนิดที่สังเคราะห์แสงได้
2. คลอโรฟิลล์ b มีสีเขียวแกมเหลือง พบในพืชชั้นสูงทุกชนิดและสาหร่ายสีเขียว (green algae)
3. คลอโรฟิลล์ c พบในสาหร่ายสีน้ำตาล (brown algae) และสาหร่ายสีทอง (golden algae) แต่ไม่พบในพืชชั้นสูง
4. คลอโรฟิลล์ d พบในสาหร่ายสีแดง (red algae) แต่ไม่พบในพืชชั้นสูงโดยทั่วไป จะพบทั้งคลอโรฟิลล์ a และ คลอโรฟิลล์ b อยู่ด้วยกันในพืชชั้นสูง และมีสัดส่วนประมาณ 2.5-3.5 ต่อ 1