สธ. เดินหน้า Medical Hub
มอบรางวัลสุดยอดห้องปฏิบัติการทางการแพทย์และสาธารณสุข
กระทรวงสาธารณสุขเดินหน้านโยบาย Medical Hub มอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพห้องปฏิบัติการทางการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศให้มีศักยภาพในการก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน พร้อมมอบสุดยอดรางวัลระดับเพชร (Star of Diamond) ให้แก่ห้องปฏิบัติการที่ผ่านการรับรองยาวนานที่สุดมากกว่า 11 ปี
นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในการมอบรางวัล “ความเป็นเลิศด้านคุณภาพห้องปฏิบัติการทางการแพทย์และสาธารณสุข” ณ โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ ว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายส่งเสริมการจัดบริการสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub and Wellness) และระบบโลจิสติก เพื่อสนองนโยบายรัฐบาลที่จะขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นเลิศในผลิตภัณฑ์และการบริการด้านสุขภาพการรักษาพยาบาลในภูมิภาคเอเชีย โดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบกับบริการสุขภาพโดยรวมของคนไทย ซึ่งมีเป้าประสงค์ 4 ด้าน คือ Wellness Hub, Medical Service Hub, Academic Hub และ Product Hub โดยในส่วนของ Medical Service Hub ได้มอบหมายให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักของประเทศในการรับรองความสามารถห้องปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุข ให้ดำเนินการพัฒนาห้องปฏิบัติการทางการแพทย์และสาธารณสุขให้มีมาตรฐานสากล เพื่อสนับสนุนการวินิจฉัยโรค การติดตามการรักษา งานวิจัย และงานด้านระบาดวิทยา โดยใช้เทคโนโลยีในระดับสูง รวมทั้งห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานสากลในการให้บริการทดสอบผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร เพื่อให้ห้องปฏิบัติการทางการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศมีศักยภาพในการก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและการเป็นประชาคมอาเซียน
นายพสิษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินการด้านระบบบริหารคุณภาพห้องปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุขทั้งภาครัฐและเอกชนต้องมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ ในการพัฒนาและรักษาระบบคุณภาพตามมาตรฐานของแต่ละสาขาได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการพัฒนาคุณภาพห้องปฏิบัติการเป็นสิ่งที่ยาก ต้องอาศัยความอดทน ความร่วมมือร่วมใจของผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างมากจึงจะประสบความสำเร็จได้ กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ตระหนักถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาและรักษาระบบคุณภาพห้องปฏิบัติการ จึงได้จัดให้มีการมอบรางวัลความเป็นเลิศด้านคุณภาพห้องปฏิบัติการทางการแพทย์และสาธารณสุขขึ้น เพื่อเป็นการยกย่องและสร้างแรงจูงใจสำหรับหน่วยงานที่มีการพัฒนาระบบคุณภาพห้องปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นเครื่องชี้วัดคุณภาพและความสามารถของห้องปฏิบัติการตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้องที่เป็นที่ยอมรับของผู้ใช้บริการและประชาชน
นางจุรีภรณ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับรางวัลความเป็นเลิศด้านคุณภาพห้องปฏิบัติการทางการแพทย์และสาธารณสุข ได้แบ่งเป็น 4 ด้าน ได้แก่ ด้านมาตรฐานสากล ISO 15189 ด้านมาตรฐานสากล ISO/IEC 17025 ด้านระบบตรวจสอบสารพิษตกค้างในผักสด/ผลไม้สด และด้านตรวจสุขภาพคนหางาน โดยปีนี้มีหน่วยงานที่ได้รับรางวัลจำนวน 242 แห่ง โดยหน่วยงานที่ดำเนินงานมากกว่า 10 ปีขึ้นไปได้รับรางวัลระดับเพชรจำนวน 54 แห่ง หน่วยงานที่มีการดำเนินงานตั้งแต่ 8 ปีขึ้นไปได้รับรางวัลระดับทองจำนวน 60 แห่ง และหน่วยงานที่มีการดำเนินงานตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไปได้รับรางวัลระดับเงินจำนวน 124 แห่ง นอกจากนี้ในปีนี้ได้มีการมอบรางวัลสุดยอดรางวัลระดับเพชร (Star of Diamond) ให้แก่ห้องปฏิบัติการที่ผ่านการรับรองยาวนานที่สุดมากกว่า 11 ปี จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ ด้านมาตรฐาน ISO 15189 คือบริษัท กรุงเทพพยาธิ-แลป จำกัด ด้านมาตรฐาน ISO/IEC 17025 คือบริษัท เอสเอสแอลแมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ด้านการตรวจสอบสารพิษตกค้างในผักสด/ผลไม้สด คือมูลนิธิโครงการหลวง จังหวัดเชียงใหม่ และด้านมาตรฐานตรวจสุขภาพคนหางานที่จะไปทำงานต่างประเทศ คือโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ทั้งนี้รางวัลนี้เป็นคนละส่วนกับการรับรองความสามารถห้องปฏิบัติการ เนื่องจากห้องปฏิบัติการที่ได้รับรองความสามารถถือว่ามีความสามารถตามขอบข่ายที่ขอการรับรอง แต่ความมุ่งมั่นในการรักษาระบบบริหารคุณภาพอย่างต่อเนื่องหลังได้รับการรับรองเป็นสิ่งที่ท้าทายต่อการพัฒนาคุณภาพทั้งด้านบริหารจัดการทรัพยากรและบุคลากร ซึ่งจะส่งผลให้ห้องปฏิบัติการทางการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศไทยเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและระดับสากล